คิดอดีตจะเกิดทิฏฐิ
คิดอนาคตจะเกิดตัณหา
เรียนภพชาติแบบข้ามภพข้ามชาติ
ดันระลึกชาติได้อีก
ไม่เรียนให้ดีๆ ว่าเป็นแค่รูปนามขันธ์ 5 ไม่ใช่ตัวตน
เกิดมาตามเหตุแล้ว ก็ดับไปแล้ว
มันจะเลยเถิดไปว่า "เราเป็นนั่น" "เราเป็นนี่"
ถ้ายังไม่มีปัญญาก็อย่าเพิ่งไปคิด
อยู่กับปัจจุบันไว้
ไม่มีไรทำก็อยู่กับลมหายใจไป
วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2562
วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2562
ชิงลงมือก่อน
ชิงลงมือก่อน
อะไรหนอเป็นที่ตั้งของกิเลส
ตอนนี้มีสติ มีปัญญา เอามาพิจารณาขันธ์
เพราะเดี๋ยวมันก็จะไม่มีสติ เดี๋ยวมันก็จะไม่มีปัญญา
มองให้เห็นว่ามันเป็นมันเท่านั้นแหละ
มันไม่ได้เป็นเรา
เห็นแล้วก็ไม่ต้องมองมาก
ถ้าไม่เห็นก็ต้องมองหลายมุมหน่อย มองแล้วมองอีก
อะไรหนอเป็นที่ตั้งของกิเลส
ตอนนี้มีสติ มีปัญญา เอามาพิจารณาขันธ์
เพราะเดี๋ยวมันก็จะไม่มีสติ เดี๋ยวมันก็จะไม่มีปัญญา
มองให้เห็นว่ามันเป็นมันเท่านั้นแหละ
มันไม่ได้เป็นเรา
เห็นแล้วก็ไม่ต้องมองมาก
ถ้าไม่เห็นก็ต้องมองหลายมุมหน่อย มองแล้วมองอีก
วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2562
วันศุกร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2562
อสุภะก็ไม่ได้จริง
น่าเกลียดนี่เอาไว้แก้น่ารักเฉยๆ
ของจริงก็ไม่ได้มีทั้งน่าเกลียดหรือน่ารัก
แต่ถ้ายังเห็นว่าน่ารัก ก็จะยังเป็นที่ตั้งแต่กาม คือความยินดีพอใจ
จึงเอาน่าเกลียดมาแก้น่ารัก
แก้ได้แล้วก็วางอสุภะลง
ของจริงก็ไม่ได้มีทั้งน่าเกลียดหรือน่ารัก
แต่ถ้ายังเห็นว่าน่ารัก ก็จะยังเป็นที่ตั้งแต่กาม คือความยินดีพอใจ
จึงเอาน่าเกลียดมาแก้น่ารัก
แก้ได้แล้วก็วางอสุภะลง
ความตั้งอยู่ได้
วัตถุกามยังตั้งอยู่ได้
คือยังมีอิทธิพลไปจนกว่าจะถึงอนาคามี
เมื่อเห็นรูปเป็นทุกข์ วัตถุกามจึงตั้งอยู่ไม่ได้
ร่างกายเป็นที่ตั้งของวัตถุทั้งหลาย
คือยังมีอิทธิพลไปจนกว่าจะถึงอนาคามี
เมื่อเห็นรูปเป็นทุกข์ วัตถุกามจึงตั้งอยู่ไม่ได้
ร่างกายเป็นที่ตั้งของวัตถุทั้งหลาย
วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2562
วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2562
ปล่อยวางซะสิ
ปล่อยวางซะสิ
น่่มันพูดแบบเอาผลมาพูด มันได้ที่ไหน
ปล่อยวางนี้เป็นชื่อของวิมุตติ
จะทำต้องมาทำเหตุ
เหตุของปล่อยวางคือ "มรรค"
เหตุของมรรคคือ "วิปัสสนา"
เหตุของวิปัสสนาคือ "ความเพียร สัมปชัญญะ สติ"
ถ้าไม่ได้ทำเหตุไม่ต้องเอาผลมาพูด
ปล่อยได้ก็เพราะเห็นความจริงว่ามันเป็นอย่างนั้น เป็นธรรมดา
น่่มันพูดแบบเอาผลมาพูด มันได้ที่ไหน
ปล่อยวางนี้เป็นชื่อของวิมุตติ
จะทำต้องมาทำเหตุ
เหตุของปล่อยวางคือ "มรรค"
เหตุของมรรคคือ "วิปัสสนา"
เหตุของวิปัสสนาคือ "ความเพียร สัมปชัญญะ สติ"
ถ้าไม่ได้ทำเหตุไม่ต้องเอาผลมาพูด
ปล่อยได้ก็เพราะเห็นความจริงว่ามันเป็นอย่างนั้น เป็นธรรมดา
นามรูป vs รูปนาม
นามรูป
ใช้ในอธิบายปฏิจจสมุปบาท
เอาวิญญาณออกมาเป็นประธานก่อน แล้วค่อยนามรูป
...สังขารเป็นปัจจัย วิญญาณจึงมี วิญญาณเป็นปัจจัย นามรูปจึงมี ...
ที่รูปเติบโตได้เพราะวิญญาณ
ที่นามทำงานได้ก็เพราะวิญญาณ
นามรูป จะเป็นการพูดถึงเหตุปัจจัย เรียงกันไป
เอาไว้อธิบายว่ากองทุกข์นี่มันเวียนว่ายไปอย่างไร
วิญญาณ + นามรูป = ขันธ์ 5
นาม ในนามรูป สื่อถึง เวทนา สัญญา สังขาร
ส่วนรูปนาม นี่เท่ากับขันธ์ 5 เลย
รูปนามนี่เป็นการพูดถึงองค์ประกอบ เอาคนมาแยกเป็น รูปธรรม และนามธรรม
รูปนามนี่เอาไว้ปฏิบัติวิปัสสนา ขันธ์ 5
ใช้ในอธิบายปฏิจจสมุปบาท
เอาวิญญาณออกมาเป็นประธานก่อน แล้วค่อยนามรูป
...สังขารเป็นปัจจัย วิญญาณจึงมี วิญญาณเป็นปัจจัย นามรูปจึงมี ...
ที่รูปเติบโตได้เพราะวิญญาณ
ที่นามทำงานได้ก็เพราะวิญญาณ
นามรูป จะเป็นการพูดถึงเหตุปัจจัย เรียงกันไป
เอาไว้อธิบายว่ากองทุกข์นี่มันเวียนว่ายไปอย่างไร
วิญญาณ + นามรูป = ขันธ์ 5
นาม ในนามรูป สื่อถึง เวทนา สัญญา สังขาร
ส่วนรูปนาม นี่เท่ากับขันธ์ 5 เลย
รูปนามนี่เป็นการพูดถึงองค์ประกอบ เอาคนมาแยกเป็น รูปธรรม และนามธรรม
รูปนามนี่เอาไว้ปฏิบัติวิปัสสนา ขันธ์ 5
ความฝัน
ความฝันเกิดจากความคิดที่ยังวิปลาสอยู่
สังขารที่เกิดจากจิตปรุงแต่งสร้างภาพขึ้นมา
ภาพนี่สร้างจากความวิปลาสที่ชื่อว่า อัตวาทุปาทาน
ความคิดวิปลาสนี่จะเกิดเฉพาะผู้ที่ยังมีกิเลส
เวลาคิดมันจะ "สร้างภาพ" ขึ้นมาด้วย
ภาพที่ว่าก็เป็นภาพตัวตน ภาพตัวเรา ว่าเราเป็นใคร (จริงๆ ไม่มีใช่มั้ย)
แต่เรามองตัวเราเป็นภาพ เราจึงรู้ว่าเราเป็นคน เป็นหญิง เป็นชาย
ทำไมมองออกเป็นอย่างนี้ ก็เพราะเรามองตัวเองเป็นภาพ
มันเป็นการสร้างภาพขึ้นมาในจิต
ภาพนี้เกิดจาก "วิปลาสในจิต"
ตอนนี้ก็เหมือนฝันอยู่
ฝัน ก็คือความคิดที่เกิดภาพได้ด้วย
แล้วเราดัน "เชื่อ" ภาพนั้น
ภาพนั้น เรียกเป็นกิเลสว่า "อัตวาทุปาทาน" ความยึดถือภาพลักษณ์ตัวตน
มองภาพตัวเอง เป็นชาย เป็นหญิง อายุเท่านั้นเท่านี้
ยังไงเรียกว่าฝัน
การรู้สึกว่า เราเป็นคนนั้นคนนี้ เป็นคนไทย เป็นชายหญิง
โดยสัจจะ มีที่ไหนล่ะ คนไทย
แต่เราไม่เรียกฝัน เพราะตามันเห็นด้วย หูมันได้ยินด้วย
แต่ถ้าปิดตาปิดหู หลับสนิท มีแต่ทางใจอย่างเดียว เรียกว่า "ฝัน"
มันก็เป็นการสร้างภาพแบบเดียวกัน
การทำงานของเทพสังหรณ์
เวลาเราขาดสติสัมปชัญญะ คุมตัวเองไม่อยู่
ก็อาจจะถูกคุม คุมจิตเราไปสร้าง "ภาพ" ให้
เวลาเรามีสติสัมปชัญญะ เราก็สร้างภาพ "เอง"
พอเราเบลอหน่อย โพล้เพล้หน่อย ก็อาจมีคนช่วย "สร้างภาพ" 5555
จริงไม่จริงนี่แล้วแต่ท่านที่ช่วยสร้างนั่นแหละ
สังขารที่เกิดจากจิตปรุงแต่งสร้างภาพขึ้นมา
ภาพนี่สร้างจากความวิปลาสที่ชื่อว่า อัตวาทุปาทาน
ความคิดวิปลาสนี่จะเกิดเฉพาะผู้ที่ยังมีกิเลส
เวลาคิดมันจะ "สร้างภาพ" ขึ้นมาด้วย
ภาพที่ว่าก็เป็นภาพตัวตน ภาพตัวเรา ว่าเราเป็นใคร (จริงๆ ไม่มีใช่มั้ย)
แต่เรามองตัวเราเป็นภาพ เราจึงรู้ว่าเราเป็นคน เป็นหญิง เป็นชาย
ทำไมมองออกเป็นอย่างนี้ ก็เพราะเรามองตัวเองเป็นภาพ
มันเป็นการสร้างภาพขึ้นมาในจิต
ภาพนี้เกิดจาก "วิปลาสในจิต"
ตอนนี้ก็เหมือนฝันอยู่
ฝัน ก็คือความคิดที่เกิดภาพได้ด้วย
แล้วเราดัน "เชื่อ" ภาพนั้น
ภาพนั้น เรียกเป็นกิเลสว่า "อัตวาทุปาทาน" ความยึดถือภาพลักษณ์ตัวตน
มองภาพตัวเอง เป็นชาย เป็นหญิง อายุเท่านั้นเท่านี้
ยังไงเรียกว่าฝัน
การรู้สึกว่า เราเป็นคนนั้นคนนี้ เป็นคนไทย เป็นชายหญิง
โดยสัจจะ มีที่ไหนล่ะ คนไทย
แต่เราไม่เรียกฝัน เพราะตามันเห็นด้วย หูมันได้ยินด้วย
แต่ถ้าปิดตาปิดหู หลับสนิท มีแต่ทางใจอย่างเดียว เรียกว่า "ฝัน"
มันก็เป็นการสร้างภาพแบบเดียวกัน
การทำงานของเทพสังหรณ์
เวลาเราขาดสติสัมปชัญญะ คุมตัวเองไม่อยู่
ก็อาจจะถูกคุม คุมจิตเราไปสร้าง "ภาพ" ให้
เวลาเรามีสติสัมปชัญญะ เราก็สร้างภาพ "เอง"
พอเราเบลอหน่อย โพล้เพล้หน่อย ก็อาจมีคนช่วย "สร้างภาพ" 5555
จริงไม่จริงนี่แล้วแต่ท่านที่ช่วยสร้างนั่นแหละ
วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2562
ตื่นเช้ามันดี
ไม่ดีเพราะเวลา
ดีเพราะมากระทำสิ่งดีๆ
ระเบียบวินััย กำลังหมู่พวก (ใครๆ ก็ทำ)
มีข้อดีคือ ไม่ต้องใช้กำลังจิตเยอะ
ดีเพราะมากระทำสิ่งดีๆ
ระเบียบวินััย กำลังหมู่พวก (ใครๆ ก็ทำ)
มีข้อดีคือ ไม่ต้องใช้กำลังจิตเยอะ
วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2562
วันพุธที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2562
แจงลงขันธ์ 5
กองทุกข์ที่ไม่ได้ถูกกำหนดรู้
นั้นแหละจะถูกถือไปเป็นตัวตน
ไม่ว่าอะไรจึงต้องกำหนดลงเป็นขันธ์ 5 ให้ได้
ถ้าแจกลงขันธ์ 5 ได้ อ้าว นี่มันก็ไม่ใช่เรานี่
แต่ถ้าแจกลงไม่ได้ มันจะเห็นว่า นี่ไงเรา
ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้น ระบุให้ได้
ความคิดเกิด...นี่สังขารขันธ์
สีชมพูเกิด...นี่สัญญาขันธ์
และทุกขันธ์นั้นไม่เที่ยงหมดเลย
ดูลงไปด้วยว่า ไม่เที่ยงเพราะอะไร
ให้มันตอบให้ได้
กำหนดไม่ได้ก็จะเห็นผิด 4 มุม
นั้นแหละจะถูกถือไปเป็นตัวตน
ไม่ว่าอะไรจึงต้องกำหนดลงเป็นขันธ์ 5 ให้ได้
ถ้าแจกลงขันธ์ 5 ได้ อ้าว นี่มันก็ไม่ใช่เรานี่
แต่ถ้าแจกลงไม่ได้ มันจะเห็นว่า นี่ไงเรา
ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้น ระบุให้ได้
ความคิดเกิด...นี่สังขารขันธ์
สีชมพูเกิด...นี่สัญญาขันธ์
และทุกขันธ์นั้นไม่เที่ยงหมดเลย
ดูลงไปด้วยว่า ไม่เที่ยงเพราะอะไร
ให้มันตอบให้ได้
กำหนดไม่ได้ก็จะเห็นผิด 4 มุม
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)