- พุทธธรรม คือ ทรงไว้ซึ่งความเป็นพุทธะ
พุทธะ คือ ตื่น รู้ และเบิกบาน - ให้ความสำคัญกับความตื่น รู้ ที่เบิกบาน หาใช่แค่
"อือ ก็รู้แหละว่าวันนึงเราต้องจากกัน" แล้วก็เฮ่อ...
จงเบิกบาน และยิ้มรับ (ฝึกถ้ายังไม่เป็นอย่างนั้น) - ปัญญาจะทำงานได้ดีในจิตที่ปราโมช
- นึกถึงความตาย มันเป็นโทสะ
ธรรมชาติของโทสะคือต้องปลดปล่อยออก ระบายออก
แต่ความตายนั้น ก็เข้าใจว่าสักวันต้องเป็นอย่างนั้น กระนั้นมันก็ยังมีโทสะ - โทสะที่หาทางระบายออกไม่ได้ เพราะไม่รู้จะไปโทษใคร ด้วยไม่มีใครให้โทษ
จึงแปลงเป็นโสกะ - เมื่อใดที่ถอนหายใจ "เฮ่อ" 1 ที ก็ให้สูดลมหายใจเอาความเบิกบานกลับเข้าไป 1 ทีด้วย
ไม่งั้นจิตมันจะจำแต่ความไม่พอใจเล็กๆ น้อยๆ สะสมเข้าเป็นความซึมเศร้า - การพิจารณาความตายนั้นทำไปม้วนเดียวจบไปเลย คือ
เราตายได้ทุกแบบ
เราตายได้ทุกที่
เราตายได้ทุกเมื่อ
ดังนั้นจะอยู่ยังไงให้ดีตอนที่ยังไม่ตาย - ความเมตตาตนเองก็คือนึกอยากให้ตนเองมีความสุขนั่นแหละ
---------
NbN
- ขณะนั่งดูสภาวะ ก็รู้สึกว่า กายปัสสัทธิ กับจิตตปัสสัทธิ ไม่ต้องมาด้วยกันก็ได้นี่กว่า
ความรู้มันรุู้ความมึนและง่วงอยู่เฉยๆ ของมันอยู่อย่างงั้น - สังเกตว่าเวลาฟังธรรม ราวกับจิตมันค่อยๆ defragment ตัวเองให้เป็นระเบียบ ช่างเป็นเวลาที่เยียวยา
- วันนี้หันไปหาพระพุทธเจ้า เพื่อฟังธรรม ท่านบอกว่าอย่าเสียเวลาเลย