ทุกข์ 3 หมวด
หมวดแรกแบ่งตาม สภาวะที่รู้สึกได้ (แบ่งตามเวทนา)
1. ทุกขทุกข์ หมายถึง ทุกข์ในความรู้สึกเลยว่าทุกข์ - ว่าตามองค์ธรรมก็จะหมายถึง ทุกข์ และโทมนัส
2. วิปรินามทุกข์ หมายถึง ทุกข์ที่รู้สึกเอาได้เมื่อมันเปลี่ยนระดับ มันยักย้ายถ่ายเท มันเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น หรือแปรปรวนไป เวลาพูดเวทนาจะหมายถึง สุข และโสมนัส อันนี้คนอาจจะไม่รู้สึกว่ามันทุกข์ แต่มันเปลี่ยนระดับ
จริงๆ โทมนัสเวทนาก็แปรปรวน แต่ตัวความรู้สึกว่า "ทุกข์" มันชัดกว่า เลยจัดเป็นทุกขทุกข์ไป ในแบบว่า นับแล้วไม่นับซ้ำ
3. สังขารทุกข์ หมายถึง ทุกข์ในแบบสังขาร เรียกว่าเป็นทุกข์อย่างยิ่ง ทุกข์ปกปิด ทุกข์ในแบบที่เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นทุกข์ ไม่รู้ร้อนรู้หนาวกะมัน ถ้าว่าโดยสภาวะก็คือ อทุกขมสุข และสังขารอื่นๆทั้งหมด คือมันแปรปรวนน่ะแหละ แต่เรารู้สึกอะไรไม่ได้เลย คือเป็นทุกข์อย่างยิ่ง (ยิ่งจนคนทั่วไปรู้สึกไม่ได้) อันนี้คือสังขารมันเป็นทุกข์ในแบบไตรลักษณ์
สังขารถูกบีบคั้นอยู่ให้เคลื่อนย้ายเปลี่ยนรแปลงอยู่เสมอๆ เป็นธรรมดา แต่คนจะรู้สึกหรือเปล่านี้อีกเรื่องหนึ่ง การที่สังขารถูกบีบคั้นอยู่เสมอ (อันนี้เป็นไตรลักษณ์) คนที่ถูกความเปลี่ยนแปลงของสังขารแล้วถูกบีบจนตัวเองเป็นทุกข์ อันนี้เป็น ทุกขอริยสัจ
ท่านมักใช้ วิปรินามทุกข์ ในการเชื่อมเข้าอริยสัจ
ส่วน ทุกขทุกข์ ก็เชื่อมได้ แต่ถ้าทุกข์มากๆ มันจะไม่พิจารณา
วิปรินามทุกข์ และ ทุกขทุกข์ อาจจะไม่เป็นทุกข์เลยก็ได้ แต่เมื่อมีตัณหา อุปาทานมาถึอครอง จึงจะกลายเป็นทุกขอริยสัจ
---
หมวดสอง ทุกข์ในไตรลักษณ์
จะสื่อถึงสภาพความเป็นธรรมดาของสิ่งต่างๆ ในธรรมชาติ
---
หมวดสาม ทุกขอริยสัจ
ถ้าไปยึดสิ่งนั้นๆ เป็นตัวเราขึ้นมาก็จะกลายเป็นทุกขอริยสัจ เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
---
ทุกข์จร นี่เป็นทุกข์อริยสัจ เป็นทุกข์ที่มาจากความยึดถือ - โสกปริเทวะทุกขโทมนัสอุปายาส
ทุกขทุกข์ - เป็นเวทนา
วิปรินามทุกข์ - เป็นเวทนา
สังขารทุกข์ - เป็นสังขารท.(อาจจะเป็น/ไม่เป็นทุกขอริยสัจ อยู่ที่ยึดไหม)
การอธิบายคนกลางๆ - เอาตั้งต้นอธิบายความแปรปรวนเวทนาขึ้นต้นเรื่อง แล้วจะอธิบายเหมาก็เอาสังขารทุกข์
ทุกขทุกข์ ทุกข์มากมักไม่พิจารณา (ต้องคนปัญญาเยอะจริงถึงจะเห็น)
สังขารทุกข์ (ต้องคนปัญญาเยอะ)
---
การพิจารณาความไม่เหมือนเดิม (วิปรินามทุกข์) เกิดอันใหม่อยู่เรื่อย เป็นลักษณะของสัมมสนญาณ
แม้ยังไม่เห็นดับก็จริง แต่รู้ว่ามันจะต้องเปลี่ยนแน่นอน
ยังไม่ได้เห็นไม่เที่ยงนะ (คือ ไม่ได้เห็นอันเก่าดับไป แค่เห็นอันใหม่) เห็นเปลี่ยนหน้าอีกละ เป็นลักษณะเด่นของสัมมสนญาณ
ความดับเป็นแค่ความ "อนุมานเอา" ในสัมมสนญาณ
เช่น ไม่เห็นความเป็นเด็กดับ แค่เห็นว่าตอนนี้มันแก่ละ เลยอนุมานว่าเด็กมันดับไปแล้ว