วันพุธที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2564

โคลงทำนาย

ตรัสแก้สุบินนิมิตรของพระเจ้าปเสนทิโกศล
(จัดพิมพ์ในหนังสือ “วันทามะหัง” ปี พ.ศ.๒๕๕๔)
.................................

๑. เห็นสี่โคตั้งเค้า ชนกัน
     ท่าที ฤ แข็งขัน เข่นฆ่า
     ต่อชาวบ้านโจษจัน ห้อมโห่
     กลับเลิกรอยถอยล้า ดังนี้ เป็นใด ?

เมื่อโลกกันดารด้วย ความดี
จักแห้งแล้งขาดสี เขียวข้าว
เมฆทะมึนแต่สี่- ทิศท่า หนักเท
จนแล้วก็ร้อนเร่า ตั้งเค้า หลอกคน ฯ

..........

๒. ไม้พันธุ์ไม่พอคืบ พ้นดิน
      ผลิดอกออกผลริน เกลื่อนทุ่ง
      เดชะพระภูมินทร์ โปรดบอก
      ละอ่อนพืชหยาบยุ่ง เล่าร้าย ลางใด ?

เมื่อโลกร้อนด้วยเชื้อ ไฟกาม
แน่งน้อยมิทันงาม เต็มเนื้อ
รู้เสพสวาททราม ครรภ์ป่อง
วัยแม่ห่างลูกเชื้อ ไม่สิ้น สิบปี ฯ

..........

๓. แม่โค ฤ ก็แก่ ใกล้กาล
     ง้อขอดื่มนมธาร ลูกน้อย
      ลูก ฤ ก็เอาการ ตระหนี่
      อุบาทว์ใดจักคล้อย ด้วยเรื่อง ดังฝัน ?

เมื่อแผ่นดินสิ้นเชื้อ กตัญญู
ประโยชน์ก็เพื่อกู เท่านั้น
เลี้ยงแม่จักเลี้ยงดู ไม่ต่าง เลี้ยงแมว
แม่อดต้องทนกลั้น ขอข้าว เดนกิน ฯ

.............

๔. เทียมเกวียนเทียมไถด้วย ลูกโค
     แปลก.ไม่เลือกตัวโต เชื่องแล้ว
     โคน้อยไร้แรงโข อ่อนหัด
      เกวียนล่มไถไม่แคล้ว ดังนี้ ลางใด ?

ต่อผู้นำถ่อยทั่ว เต็มกลืน
กรมกองเด็กวานซืน นั่งชี้
จับผู้ใหญ่เวนคืน ขังคอก
ลากบ้านเมืองป่นปี้ สุดแล้ว ซวยใคร ฯ

...............

๕. ม้าแปลกมีสองปาก อ้ารอ
    คน ฤ ต่างพะนอ ป้อนหญ้า
    สองปากเหมือนไม่พอ จักอิ่ม
    ด้วยสุบินดังว่า จักร้าย แรงใด ?

เมื่อสิทธิ์พิพากษา ชั่วดี
ตกแก่มือกาลี ปากกว้าง
ถูกผิดคิดตามมี โอนอุด
คุกเหล็กเงินยังง้าง ประสาไร กฎหมาย ฯ

...............

๖. ค่าควรเมืองเช่นนั้น ถาดทอง
    บรรจงขัดเอี่ยมอ่อง อวดค่า
   น้อมเป็นกระโถนรอง สุนัขฉี่
   การณ์อนาถดังว่า ส่อเภท ภัยใด ?

เมื่อสถุลหนาแน่น นั่งเมือง
วงศ์หงส์ก่อนรุ่งเรือง กลับร้าย
ยากสู้พิษฝืดเคือง จำจิต
ยกธิดาคล้ายขาย แต่งด้วย เทือกสถุล ฯ

.................

๗. หนึ่งชายนั่งฟั่นเชือก หนังโค
     ปลายเชือกค่อยยาวโย้ หล่นแคร่
     นางจิ้งจอกหิวโซ นอนแอบ
     แทะเชือกปลายอิ่มแปล้ เขาหา รู้ความ ?

ผัวทำงานงก-งก สร้างครัว
เมียอยู่บ้านแต่งตัว ร่านเที่ยว
ผลาญทรัพย์บำเรอมั่ว ชายอื่น
ผัวหารู้สักเสี้ยว นกเอี้ยง เลี้ยงมา ฯ

................

๘. ตุ่มโตเต็มเอ่อน้ำ ตั้งกลาง
     ตุ่มเล็กแล้งน้ำวาง แวดล้อม
     ตุ่มเต็มจนล้นราง อุตส่าห์ ยังเติม
     ตุ่มแล้งตั้งร้อยห้อม สักผู้ ใครสน ?

รวยแล้วถึงรวยแล้ว ชอบกล
ก็จักขูดคนจน เลือดน้อย
คนจนนับเป็นคน ? อาจจะ !
โลกไม่ถมคนด้อย ถมแต่ คนมี ฯ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น