สังขารระหว่างทางในคอร์สยาว
- แม้จะผ่านมาขั้นหนึ่งแล้ว เมื่อมาอยู่ต่่อหน้ากาม ก็ยังเหมือนกับภาวนาอะไรไม่เป็น ความยึดอาการเป็นแท่งนั่นไม่ได้ต่างอะไรกับสมัยเมื่อเริ่มภาวนาเลย แค่เปลี่ยนตัวละคร ที่เหมือนจะดีขึ้น้มาหน่อยก็คือไม่ไปคว้ามาเป็นของเรา ได้แต่ดูเวทนาแบบไม่มีสัญญาเก่า ไม่มีสังขารอะไรมาประกอบ เพราะระลึกอะไรที่เป็นเรื่องราวก็ไม่ได้ เท่านั้นก็สำแดงอาการความยึดออกมาอย่างเต็มที่ของมันเลยทีเดียว แค่รู้้สสึกว่าอารมณ์ "เก่า" เท่าานั้้น และก็ปรุงเลยเถิดไปว่า เคยอธิษฐานอะไรไว้หนอ ทำไมจึงได้้ปักใจขนาดนี้ ก็ถอนอย่างงูๆ ปลาๆ ไป แต่ไม่หมดหรอก เขาหยุดพักชั่วคราวเท่านั้น้เอง
- ทำไปทำมาระหว่างนั้นก็ปล่อยสังขารทำงานไปเก้อๆ จิตก็ทักจิตขึ้นมาว่่า นี่ล่ะหนา ความวุ่นวาายของผู้ไม่จบกิจ นี่่ทุกข์กับเรื่องไม่ควรทุกข์ พิจารณากับเรื่องที่เอาจริงถ้้้าไม่ใส่ใจก็ไม่เดือดร้อนนะ แต่่ด้้วยรู้้ตัวว่่่ายังไม่่ผ่าน งานยังมี ก็เลยเดือดร้อนอยู่อย่างนั้น
- ในความวุ่นวายหลวมนี้ ดูจะเชื่องกับบริกรรมดีอย่างน่าประหลาดใจ "ความตายจักมี ชีวิตจักหมด" จิตเชื่องกับวลีนี้อย่างประหลาดก็ได้อาศัยเปป็นเครื่องอยู่ไป
- จิตเหมือนจะสอนการเพ่งให้้ตัวมันเองเป็นครั้งแรก จาากที่เคยอับจนกับการเพ่งอาารมณ์ที่ไม่เห็นทางเลยว่าอะไรคือความเป็นหนึ่ง ไม่สามารถเห็็นความนิ่งจากภายนอกได้ไม่ว่าอย่างไร คราวนี้มันวกเข้้าเพ่งข้างใจ อารมณ์ภายนอกเลยดูจะนิ่งไป ในช่วงจงกมสั้้นๆ 15 ก้าว มันดูจะนิ่งตามสั่งให้ได้พอเห็นว่า ออ เป็นอย่างนี้้
- ลองใช้จิตอย่างนี้้ดูอารมณ์ ใบโพธิ์ที่ตอนแรกสวยสด ดูไปดูมาเหี่ยว ใจก็สลดไปตามอารมณ์
- หลังจากกามุปาทานมาสอนอารมณ์อาลัยอาวรณ์ เมื่อเวทนานั้นผ่านไป ก็เข้าสสู่ภาวะความสงบ หลังจากนั้้น ความสงบก็สอนการติดความสงบให้เห็น ภวราคะเป็นอย่างนี้
- งานต่อไปก็ถึงคิวพิจารณาอสุภะ ใจไม่ได้คุ้น ก็ต้องค่อยๆ พามันมา
- รอบนี้ก็็ได้มุมมองอีกอันหนึ่งมาที่ติดจิต คือ ขันธ์ทั้งหมดเกิดใหม่เสมอ ปัญญาเห็นไกลๆ ว่าจับตรงนี้มาพิจารณาได้ คนที่เราคุยด้วยเมื่อเช้าเขาตายไปแล้ว และจะไม่กลับมาอีก แต่ตรงนี้พิจารณาแล้วยังเศศศร้าอยู่ ปัญญายังน้อยนิด
- นั่งดูไหติดบ้านพาไปเกิด ไหเรียบร้อย ไหเลอะเทอะ ก็ไปติดบ้านที่ไม่เหมือนกัน
- มีโมเม้นต์ที่ผ่าศพพ่อแม่ น้ำตาไหลเป็นทาง
- สัมปชัญญะน่ะสอนไปหมดแล้วนะ อะไรมีประโยชน์ก็เลือกเอาบ้างซี่ จะทำให้มันเป็นเหมือนเดิมเหรอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น