- ในเมฆหมอกความไม่ตัดสินแห่งความคิด พอกลายเป็นวาจา หรือข้อเขียนออกมา จากที่ไม่ใช่ทั้ง(ใช่หรือไม่ใช่) ก็กลายเป็นใช่อะไรบางอย่างขึ้นมา จริงๆ แล้วมันเป็นอย่างไรกัน ไอ้การที่เราฟังอะไรแล้วรู้สึกเหมือนจะเข้าใจเหมือนจะไม่เข้าใจ แต่พอได้พูดออกมา ได้อธิบายให้กับใครบางคนฟัง กลับรู้สึกว่าเราเข้าใจมันมากขึ้น ... ปรากฏการณ์แบบนี้อะไรกันที่มันชัดขึ้นมา ความเข้าใจจริงๆ หรือว่า สัญญา
- เมื่อวานขณะเอาที่คีบคีบขนมมาม่อน ใจก็ซาบซ่านไปด้วย "โอโห" ในความนุ่มของเค้ก เห็นมันชอบและจะเข้าไปเคล้าเคลียสัมผัสอันอ่อนนุ่มอันนี้
- เมื่อเช้ามาคิดต่อในเรื่องของมาม่อน เห็นใจที่มันกลัวความชอบอันนี้ มันรู้ว่ามันสามารถติดกับดักกับความชอบ ความย้อมอันนี้ แล้วมันก็เคยชินที่จะติดเบรกเต็มกำลัง ไม่ให้รับรสสุขจากสัมผัสอันนั้น ... จุดนี้ถือว่าปัญญายังไม่แทง
- เมื่อวานไปฟังหลวงพ่อ พอลืมตาฟังก็เหมือนจะตั้งใจหาจุดจับเพ่ิงยึดอะไรสักอย่าง พอหลับตาฟังมันก็เหมือนจะปล่อยๆ มาดูัตัวเองบ้าง เหม่อๆ บ้าง มัวๆ บ้าง ไปฟังบ้าง กลับไปกลับมา แต่พอลืมตาขึ้นมาถามว่าเมื่อกี้ฟังได้อะไร กลับกลายเป็นไม่รู้เรื่องว่าอะไร แสดงว่ามันก็ไหลไป แม้จะไม่รู้ว่าไหลไปไหน แต่ถ้าลืมตาฟังมันจะรู้ว่าท่านพูดอะไร ... ทั้งสองสภาวะนี้ยังไม่ใช่การฟังที่แท้ เป็นสภาพอันคว่ำถ้วยอยู่ทั้งคู่
- การหลับตาลง มีบางครั้งที่เป็นสภาวะที่ใจมันไหลออกไปทันที ไม่รู้ไปไหน ไม่มีที่หมาย แต่มันคือ "ไป" น่ะแหละ ... ลองสังเกตุ
- เมื่อวานไปฟังอ.สุภีร์ ตื่นมาฟังตอนอาหารของ โพชฌงค์ อนึ่งคำว่า "อาหาร" คือ สิ่งที่ทำให้โพชฌงค์ที่ยังไม่เกิดนั้นเกิดขึ้น และทำให้โพชฌงค์ที่มีอยู่แล้วบ้างเต็มบริบูรณ์ ทั้งนี้ "อาหารนี้ไม่ใช่ตัวโพชฌงค์"
- มีคนถามไปว่า การให้อาหารเหล่านี้คือการ "คิด" ใช่หรือไม่ ตอบคือมันคือการโยนิโสมนสิการ คำว่า "การ" คือการกระทำ, มนะ คือ การใส่เข้าไปในใจ, โยนิโส คือ "เลือกในสิ่งอันเหมาะสม" เหมือนกับการค่อยๆ สอนมัน ว่า ต้องมองอย่างนี้ ต้องคิดอย่างนี้ ไม่ใช่ไปมองอย่างนั้น ไม่ใช่ไปคิดอย่างนั้น สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ตัวองค์มันจริงๆ เป็นเพียง "อาหาร" เป็นเหตุต้นให้เริ่มเกิด
- อาหารของสติ คือการฝึกให้รู้ ให้ดู (กาย เวทนา จิต ธรรม) ไม่ใช่ตัวสติ เป็นแค่อารมณ์ว่าถ้าจะฝึกให้มาดูในสี่อย่างนี้
- อาหารของ ธัมมวิจัยยะ คือ การฝึกให้มองดูสภาวะทั้งหลายเป็นธรรม นั่นคือ สิ่งที่ดีก็เป็นธรรม สิ่งที่ชั่วก็เป็นธรรม หยาบก็เป็นธรรม ละเอียดก็เป็นธรรม ไปเห็นคนเลว นั่นเป็นกระบวนการธรรมะอย่างหนึ่ง มันไม่ได้เป็นคนจริงๆ ที่เลว ไปเห็นคนดี มันก็เป็นกระบวนการทางธรรมอย่างหนึ่งอันเป็นกุศล มันไม่ใช่ว่ามี "คนดี" อยู่จริงๆ
- อาหารของวิริยะ คือ การนึกถึงว่า ไอ้สภาวะที่ลุกขึ้นเนี่ยมีอยู่, สภาวะที่ก้าวออกจากจุดเดิมนี้มีอยู่, สภาวะที่ก้าวต่อไปในทิศทางอันถูกต้องพัฒนาจากเดิมเนี่ยมีอยู่ มันเป็นการน้อมนึกแบบให้กำลังใจนั่นเอง เหมือนอย่างเวลาที่ไปอบรม ตื่นตีสามตีสี่ ทำไมทำได้ แต่อยู่บ้านทำไมมันทำไม่ได้ นั่นก็คือ จริงๆ แล้วไอ้สภาวะที่ตื่นเช้าขยันลุกขึ้นเนี่ยมันมี "ธาตุ" ตัวนี้อยู่นะ นี่ให้กำลังใจมัน แล้วเราก็เคยทำได้นะ หรืออ่านหนังสือครูบาอาจารย์แล้วเห็นท่านทำได้ นั่นคือไอ้ "ธาตุ" ที่จะลุกขึ้น เหมือนนอนอยู่แล้วก็ลุกตั้งขึ้น แล้วก็ก้าวออกไปจากที่เดิม ก้าวไปเรื่อยๆ เดินไปเรื่อยๆ เนี่ย ท่านทำได้นะ "ธาตุ" นี้มันมีอยู่ในตัวมนุษย์นะ การเปลี่ยนแปลงเป็นไปได้นะ ฝึกนึกอย่างนี้บ่อยๆ
วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
บันทึกหลายๆ วันที
25 กุมภาพันธ์ 2556
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น