วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เข้าพรรษาวัดมเหยงคณ์


  • ดูเบาๆ ดูแบบแตะๆ ไม่เพ่ง ไม่ได้จ้อง ชำเลืองๆ เหลือบๆ 
  • ถ้าอารมณ์มันแรงจนเอาไม่อยู่ดูไม่รอดก็ต้องใช้สมถะหยุดมันไว้ก่อน ไม่ไหวก็ใช้ความคิด
  • นั่งสมาธิแล้วเครื่องบินตกวูบมี 2 แบบ สัปหงก กับ ... 
  • จิตให้กับจิตรับต่างกันนิดหน่อย การรับแม้จะดีใจแต่ถ้ามองดีๆ จะมีจิตโลภอยู่ด้วย
  • ตอนนั่งสมาธิท่านก็ย้ำอีกครั้งว่าให้นั่งให้สบาย เพื่อไม่ให้ง่วงก็ไปซื้อพัดมานั่งพัด นั่งริมสระรับลมเย็น เหมือนจะมีอยู่ 2 ขณะที่คล้ายว่ากำลังจะเข้าใจอะไรสักอย่าง เห็นความ "ผ่านไป" เกิดเป็นความสุขขึ้น และเหมือนจะมีช่วงที่เกือบจะเข้าใจว่า มีอาการดีใจแบบไม่ีมีผู้ดีใจ ไอ้การมีผู้ดีใจเนี่ย ความดีใจมันไปชิดติดอยู่กับแกนอะไรสักอย่าง แต่การมีอาการดีใจเนี่ยความดีใจมันลอยอยู่กลางอากาศ แต่เห็นแค่ขณะเดียว ไม่ชัดเท่าไร การเสียบหูฟังธรรมะคาไว้ก็ดี พอรู้สึกตัวปุ๊บฟังเสียงธรรมะก็ตื่นทันที ไม่ทันที่จะไหลฟุ้งซ่านเละเทะ ความคิดฟุ้งซ่านทำให้การนอนเหมือนไม่ได้นอน
  • ได้ยินท่านตอบคำถามโยมเกี่ยวกับปีติที่ว่าน้ำตาไหล ท่านว่ามันเป็นธรรมดา เรามีชีวิตปกติที่ทุกข์มากพอได้รับความสุขจากสมาธิมันก็น้ำตาไหลเป็นธรรมดา ในตอนที่ไปกราบพระที่เจดีย์โบราณสถานน้ำตาก็ไหลแต่เข้าใจเองว่าไม่เกี่ยวกับปีติ แต่คงเกี่ยวกับการที่ได้นั่งสมาธิมามากอยู่บ้าง แต่เหตุที่ไหลที่รับรู้ได้คือรู้สึกสะเทือนใจที่เห็นซากปรักหักพังของพระพุทธรูป จากที่ตอนเช้าเพิ่งอธิษฐานขอทำร่วมบุญสร้างอุโบสถว่าขอให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น