วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2558

รู้แต่ไม่ทำ

การที่รู้แล้วแต่ยังไม่ได้ทำ  อาจเป็นเพราะ

-   รู้ไม่หมด ไม่ครบถ้วน  เช่น  อาจจะยังรู้ไม่ชัดถึงคุณค่าของสิ่งนั้น
    หรืออาจยังไม่ทราบซึ้งถึงโทษภัยที่จะได้รับถ้าไม่รีบทำสิ่งนั้น

-  ที่รู้ที่ทำไปบ้าง อาจยังไม่ตรงกลางเป้า หรือยังไม่มากไม่แรงพอ
    ผลที่ได้จึงยังไม่ต่อเนื่อง   ไม่เกิดศรัทธาที่มากพอที่จะไปต่อ

-  เมื่อความเชื่อ..ศรัทธายังไม่มากพอ  การปฏิบัติ..ศีลจึงยังไม่เต็มที่  
    การสละ..ละกิเลสจึงไม่ชัดเจน  ความรู้..ปัญญา จึงคลุมเครือ

-  ยังรักกิเลสอยู่ จึงยังไม่ฉันทะที่จะละกิเลสไปนิพพาน
   เมื่อไม่ฉันทะที่จะละกิเลส จึงไม่มีวิริยะในการปฏิบัติเพื่อละกิเลส
   และยิ่งไม่ได้เอาใจใส่ที่จะหาวิธีละกิเลส หรือใคร่ครวญทบทวนการปฏิบัติ


ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เท่านั้นยังไม่พอ  ต้อง  ปฏิบัติถูก ปฏิบัติตรงด้วย

ปฏิบัติสองข้อนั้นได้ก็ดีมากๆแล้ว  แต่ก็มีโอกาศหลุดล่วงถอยลงมาได้
แม้จะปฏิบัติอย่างนั้นมาถึงสามสิบกว่าปี ถ้าไม่ . . .  .   .

ปฏิบัติธรรมอันเป็นเครื่องออกจากทุกข์  เข้าสู่สัมมาปฏิบัติ  อย่างที่ท่านว่าไว้ ว่า

สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติดี
สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติตรง
สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติถึงความรู้ธรรม เป็นเครื่องออกจากทุกข์
สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้เข้าถึงสัมมาปฏิบัติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น