ที่น่ากลัวไม่ใช่โทสะปัจจุบัน แต่เป็นปฏิฆานุสัย
สรุปผลประกอบการปี 59 ปีนี้มาตายที่ทิฏฐุปาทาน 2 รอบ
รอบแรกโคตรอนาถ
รอบสองแม้ระยะเวลาจะสั้นกว่า เปลี่ยนเหตุได้ดีกว่า ก็ยังเรียกว่า "น่าทุเรศ" อยู่ดี
ผลของรอบแรก ผ่อนแรงยึดในตัวบุคคลสำคัญคนแรกลงประมาณครึ่ง
ผลของรอบสอง เนื่องจากจบไม่สวย ทั้งๆ ที่จัดเหตุสุดๆ ยังเสือกโดนเสียบ ผลคือถูกอุ้มไปฆ่ากลางป่าชัฏได้แผลถูกแทงไปร้อยกว่าที แลกมากับญาณแห่งความ "เข็ดหลาบ" ในระดับที่ยังผันกลับได้ หยั่งว่าเหลืออีกประมาณ 30% พร้อมกับรู้ชัดว่า สติยังไม่พอจะแก้ไข มันลืมมุมมองอันเป็นปัญญาไปจนได้
ระดับความเร็วและแรงของโทสะที่เกิด
- สติใจช่วยตัดแต่แทบไม่ผ่อนกำลัง การเกิดซ้ำเกิดขึ้นแบบแทบจะทันทีจนรู้สึกไม่ได้พัก
- สติกาย ไม่ใช่ทุกที่จะขยับตัวได้ และด้วยความแรงของเวทนาที่เกิดจึงมีตัณหาที่จะข่มผนวกเข้าไปด้วย ผลของสติจึงได้ไม่เต็มที่
- การข่ม กดกำลังพอไปได้ โงหัวได้ครู่นึง พร้อมกันกับฝังอนุสัยลงเต็มๆ
- ปัญญา ในครึ่งแรกของการถูกเชือด ทิฏฐิก็ยังพอป้องกันอยู่ได้ ด้วยใจวางไว้ว่า "มีเหตุก็เกิด" แต่พอผ่านไปสักพัก ด้วยความแรงและความถี่ที่แทบไม่ลดลง และเลือกจะไม่ข่มเต็มกำลัง เจอผัสสะสะกิดอีกนี๊ดดดดแบบได้จังหวะ ปัญญาก็ดับทันที ตายสยองอีกรอบ 5555
โอ๊ย อายยยย~~~~
ชัดเจนแล้วว่าต้องฝึกมุมไหน ไม่ดับสังขาร ไม่รอดจริงๆ
แม้จะเคยได้ยินได้ฟัง แต่ถึงเวลางัดออกมาใช้ไม่ได้
นึกไม่ออกบ้าง (สติไม่มา)
แกะไม่ออกบ้าง (ปัญญาไม่แทง)
เจอผัสสะบังหน้า (หลงเรื่อง)
เจออวิชชาบังตา (หลงเป็นตัวเป็นตน เป็นฝ่ายนี้ฝ่ายโน้นจริงจัง)
ปรุงเข้าไปได้ ~~~ น่าอายแต๊ๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น