วันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เพราะไม่รู้ในความไม่มีจึงปรุงแต่ง

ทุกการปฏิบัติธรรมก็เพื่อไปดับสังขต (ความปรุงแต่ง)
ปรุงแต่งแปลว่าไม่จริง แต่มันทำงานอย่างนั้นได้อย่างไร
ทำไมปรุงเรื่องไม่จริงขึ้นมา

อวิชชามันต้องทำให้เชื่อให้ได้ก่อนว่า รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์มีตัวตน
มันไม่รู้ข้อนี้ว่า รูปมันไม่ใช่รูป
การประชุมของความปรุง ไมไ่ด้ปรุงข้อเดียว

ใช่เสียงหรือ
ใช่คำพูดหรือ
มันเป็นของว่างเปล่า

ปรุงแต่งว่ามีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มีจริงๆ
เวทนามีจริงๆ
ความจำมีจริงๆ
ความรับรู้มีจริงๆ
จึงขายขันธ์ 5 ได้ว่ามีจริงๆ

การปฏิบัติมันคือการดับเหตุแห่งทุกข์อยู่ในตัว
อานาปานสติ กำลังดับเหตุ และเดินมรรคอยู่ในตัว

พอไม่รู้ ว่าอายตนะ 6 ไม่ได้มีอยู่จริงๆ
เลยไปเชื่อว่าขันธ์ 5 ที่รับรู้ผ่านอายตนะ 6 นั้นมีจริงๆ ไปด้วย
เลยไม่รู้อีกว่า ความไปยึดในความไม่มีจริงๆ ของขันธ์ 5 นั้น เป็นทุกข์
ไม่รู้ในอริยสัจว่ามันล้วนเกิดจากเหตุปัจจัยแล้วมันก็แปรปรวน เวทนาก็ดี สัญญาก็ดี สังขารก็ดี
มันกำลังยึดกับตัวทุกข์ เพราะมันอยากให้เที่ยง อย่างให้ถาวร

กำลังหาความสุข
แต่ไม่รู้ว่าความสุขแท้จริงคืออะไร
ความสุขแท้จริงคือการไม่ปรุงแต่ง

กายไม่ได้ไปเอง
มันถูกความปรุงแต่งภายในผลักดัน
ที่ปรุงแต่งอยากได้บุญก็เพราะปรุงว่ามีตัวตนในร่างกาย
มีเราได้เวทนา
มีเรามีความจำ
มีเรามีความคิด
มีเราที่อยู่ในวิญญาน
มีเราเห็น
มีเราได้รับรส
มีเราได้กลิ่น

สังขาร = กิริยาที่ปรุงแต่งรูปให้สำเร็จว่าเป็นรูป

รูปก็เป็นสังขตธรรม อาศัยความเกิดแล้วก็อาศัยความเสื่อม
เพียงแต่ไปตั้งชื่อเรียกว่า อันนี้รูป อันนี้ัเวทนา

ขันธ์ 5 ว่างเปล่า เพราะไม่ได้มีตัวตนอยู่ข้างใน แล้วก็น้อมจิตไปสู่ความไม่ปรุงแต่ง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น