อัตถิ กาโยติ วา ปะนัสสะ สะติปัจจุปัฏฐิตา โหติ.
อนึ่งสติปรากฏชัดว่า กายมีอยู่ (คือกายมีอยู่ ไม่ใช่นาย ก.มีอยู่)
เห็นเป็นธรรมชาติล้วนๆ อย่างที่ว่า "เห็นแต่ธรรมท.เป็นไป" คือเห็นแต่รูปธรรม-นามธรรมเป็นไป
การรู้เช่นนี้ คือรับรู้สิ่งนั้นตามเป็นจริง ที่เป็นอย่างนั้นของมัน
โดยไม่เอาความรู้สึกสมมติ และความมั่นหมายต่างๆ เข้าไปสวมใส่ให้มัน
ยาวะเทวะ ญาณะมัตตายะ ปะติสสะติมัตตายะ.
เพียงสักว่าเป็นที่รู้ เพียงสักว่าเป็นที่อาศัยระลึก
ท่านว่าเพียงเพื่อญาณ และเพื่อสติ
เพื่อเป็นข้อมูลความจริงสำหรับเข้าใจ และระลึกใช้ประโยชน์
ประโยชน์ก็คือว่า สิ่งเหล่านี้เข้ามาสู่เราในฐานะข้อมูลความจริง
รู้เข้าใจแล้วสามารถระลึกใช้ประโยชน์
ยิ่งเข้าใจชัดเจน ยิ่งระลึกใช้ประโยชน์ได้มาก
นี่คือการรับรู้ที่ถูกต้อง (รับรู้ naked fact)
ข้อมูลที่รับเข้ามาจะใช้ประโยช์ได้จริง
ตามความมุ่งหมายของการรับรู้นั้น
ไม่เข้ามาในลักษณะละเมอเพ้อพกก่อให้เกิดความทุกข์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น