วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2564

ข้อปฏิบัติต่อเสียงในศาสนานี้

 การแสดงธรรม จะไม่ได้แสดงแค่ว่า "เอ้อ นี่เสียง" แล้วหยุดอยู่แค่นี้ มันจะไม่ได้ประโยชน์อะไร


แต่จะแสดงในแง่ว่า เสียงนี้เป็นกามคุณนะ กามทั้งหลายเหมือนร่างกระดูก ไม่มีใครเข้าไปมีความสุขเพลิดเพลินได้อย่างแท้จริงในเสียงเหล่านั้น

กามทั้งหลายเหมือนชิ้นเนื้อ เครื่องเสียงเป็นที่แย่งชิงกัน เสียงรถยนต์ก็เป็นที่แย่งชิงกันอยู่แล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นวัตถุกาม

ก็เอาเรื่องกามมาวิเคราะห์เป็นโทษภัย พิษภัยเป็นต้น

หรือถ้าจะแสดงในแง่อายตนะ ก็แสดงเป็นเสียงอยู่ในฐานะเป็นอารมณ์ของโสตวิญญาณและธรรมที่สัมปยุตกับโสตวิญญาณ

ถ้าจะวิเคราะห์เสียง ก็มีอยู่แค่ 9 รูป เพราะหลักของเราไม่ใช่เพื่อสร้างเสียง แต่เพื่อตัดฉันทราคะในเสียง ตัวเสียงจริงๆ ไม่ได้มีอะไรให้มาวิเคราะห์มากมายในสายธรรมะ

เสียงอันนั้นเป็นปัจจัยให้ศีลธรรม เช่น อาศัยเสียง ทำบาปได้ไหม ชี้ในมุมนี้ ลำพังตัวเสียงเองไม่ได้มีอะไร เช่นเสียงดังๆ มาสตาร์ทรถอยู่หน้าเรา มโนทุจริตเริ่มเกิด สักพักวจีทุจริตอาจจะตามมา

เสียงทำให้เกิดอภิชฌาได้ไหม อยากได้เสียงพาตัวเองไปนั่งที่นั่นที่นี่บ้าง

ถ้าทุกขเวทนาจากเสียงก็เกิดโทสะ
ถ้าอุเบกขาเวทนาจากเสียงก็เกิดโมหะ

และก็เป็นปัจจัยแก่ตัณหาอยู่ดี ตัณหาเกิด อุปาทานเกิด คิดถึงเสียงก็เป็นมโนกรรม พูดถึงเสียงเป็นวจีกรรม ถ้ามีพฤติกรรมโต้ตอบจากเสียงก็กลายเป็นกายกรรม กรรมเหล่านี้ ก็เป็นปัจจัย เพื่อให้ "มีหูต่อไป"

ฉะนั้นเหตุที่ทำให้มีหูอันนั้น ก็คือความเพลินในเสียงอันนั้น

แล้วรู้เห็นอย่างไรถึงจะเบื่อหน่ายในเสียง จะได้เลิกเพลินในเสียงสักที นี่แหละที่เรียกว่าเป็นโยนิโสมนสิการ มาใคร่ครวญจนเบื่อหน่ายและคลายกำหนัด

ข้อปฏิบัติในศาสนานี้ไม่ใช่ไม่ไปสนใจเสียง แต่เข้าไปรอบรู้ในเสียงด้วยอำนาจของปริญญา 3

อย่างเสียงในทะเลที่ไม่ไปได้ยินมันล่ะ เกี่ยวข้องต้องไปพิจารณามั้ย?

ก็ต้องดูว่าเสียงนั้นเป็นอารมณ์ของจิตมั้ย?
เกี่ยวข้องกับกรรมไหม?

ซึ่งจิตและกรรมนี่แหละ เป็นที่ตั้งของตัณหาและอวิชชา 
กิเลสถ้าจะเกิดก็เกิดในสิ่งเหล่านั้นแหละ ในฐานะเป็นอารัมณปัจจัย   

เสียงนี้เป็นปัจจัยแก่กิเลสได้ 2 ปัจจัยเท่านั้นคือ
อารมณปัจจัย และอุปนิสยปัจจัย

สรุปประเด็น รู้เห็นอย่างไรจึงจะเบื่อหน่ายในเสียง

จับที่สมุฏฐานของเสียงเป็นอันดับแรก
  1. ตัวเหตุของเสียงมันจีรังยั่งยืนไหม
  2. แล้วตัวเสียงมันเที่ยงไหม?
  3. การได้ยินเสียงที่ต้องอาศัยหูนี่ ถ้าหูเสื่อมจะได้ยินไหม?
  4. ถ้ามีอะไรมากั้นที่พลังงานถ่ายทอดมาไม่ได้นี่จะดังไหม?
พิจารณาลงไตรสิกขา
  1. เสียงนี้ทำให้ผิดศีลมั้ย
  2. เสียงนี้ทำให้เจริญสมถะได้มั้ย
  3. เสียงที่เกิดจากจิตเป็นสมุฏฐาน เช่น เสียงธรรมพระพุทธเจ้า เสียงนี้เป็นปัจจัยแก่จิตชนิดไหนบ้าง
มัชฌิมาปฏิปทานี้อยู่ตรงไตรสิกขา
ถ้ารับรู้อารมณ์อะไรแล้วไม่สามารถสงเคราะห์ลงไตรสิกขา เราจะไม่สามารถถึงมรรคได้
ตัวข้อปฏิบัติจริงๆ อยู่ตรงนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น