วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

โคลงทุกข์สี่สุภาพ ๒

Cr. รังสิมันต์
รูป..ปานสมบัติใบ้                 ชอบ-ชัง
รส..ซ่านหวานว่ายัง               เจื่อนได้
กลิ่น..หอมย่อมกำลัง              จางกลิ่น
เสียง..สื่อสรรพสิ่งไร้               สิ่งรั้งยั่งยืน

หลง.. ลักษณ์ ลวง เล่ห์ ลิ้น หลากล้วนหลอกหลอน

Cr. ฉัตรปกรณ์
เกิดมารับทุกข์แล้ว                รู้ยัง                                          
มัวแต่หลงวัฏฏัง                   แต่งต้อง                                    
ทุกข์เกิดแต่กายัง                  แรกเริ่ม                                    
เราอาจลืมทุกข์พ้อง               แรกร้องอุแว

Cr. ธนพร
ใจเจ็บกายย่อมสิ้น                เรี่ยวแรง
มืดบอดก่อกาแพง                 ปิดกั้น
ระทมไม่ชี้แจง                     ว่างเปล่า
ถึงผิดยังดื้อรั้น                     ไม่รู้ตักเตือน

เหมือนจับหินเหล็กร้อน           บีบกำ
เจ็บปวดเพราะตนทำ             เหนี่ยวไว้
สุขทุกข์เราเลือกจำ                ลิขิต
ปล่อยทุกข์ที่ถือไว้                 ย่างข้ามผ่านไป

Cr. คนเขียนค่าว เมากะโลง
ทุกข์คือหนึ่งเพื่อนแท้....เกิดมา
ทุกข์ยิ่งสิ่งธรรมดา........คู่แท้
เรียนรู้ทุกข์ทุกเวลา.......ค่ายิ่ง
ทุกข์ห่างเพียงรู้แก้........เหตุนั้นทุกข์มี
Cr. ทันย่า วิลล่า
๏ ปลายสายของสุขแล้                 แลทุกข์
ปลายหนึ่งสนานสนุก                   เหนี่ยวรั้ง
อีกปลายอาจแปรสุข                    เปลี่ยนสิ่ง สลับนา
กลายโศกกำสรดครั้ง                    ผิดพลั้งไผลเผลอ ๚

๏ เจอทุกข์รู้ทุกข์ไว้                      สังวร
ให้ทุกข์เป็นครูสอน                      สั่งไซร้
หาคำตอบตัดตอน                        เริ่มแต่ จิตเฮย
พรากสุขพบทุกข์ไร้                      มนัสรู้อาตม์มนา ๚

๏ สาวหาสาเหตุต้น                     ปลายสาย
ถือมั่นอยู่มากมาย                        หม่นไหม้
วางลงจึ่งคลี่คลาย                        ขันธ์นี่ เปล่านอ

หมดทุกข์หมดโศกได้                    ละถ้วนอุปาทาน ๚ะ๛

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น