วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2556

คัดลอกจากหนังสือหลวงปู่หล้า


·       การที่พระคุณเจ้าพาสามเณรผ่านมาพักที่บ้านและวัดป่าของพวกข้าพเจ้าโดยมิได้นัดหมาย เป็นของทิพย์มาเองโดยสุภาพ นับว่าเป็นบุญอันล้นเหลือแล้วละ แต่ความประสงค์ของพระคุณเจ้าจะต่อไปในทิศใดๆ ก็ยังไม่ทราบได้ ถ้าหากว่าต้องการพักปฏิบัติอยู่นี้จนกระทั่งพวกกระผมสิ้นลมปราณจนตราบใดๆ ก็ดี พวกกระผมก็จะตั้งใจปฏิบัติ ตามสติกำลังอยู่ตราบนั้น หรือหากว่าจะพักอยู่ต่ำกว่านั้นลงมาก็มอบให้เป็นสิทธิของพระคุณเจ้า แต่ถ้าจะไปวันไหนเดือนไหนปีไหนก็จะตามส่งตามสติกำลังไม่ทอดธุระทั้งจะอยู่และจะไป ขอให้พระคุณเจ้าเป็นหัวหน้าในทางที่เป็นธรรมอันสะดวกต่อข้อวัตรปฏิบัติของพระคุณเจ้าเท่านั้นเป็นเกณฑ์ พวกกระผมมีหน้าที่ปฏิบัติตามไม่แซงออกหน้า (31)

·       กระผมมาไม่ได้เหตุไม่ได้ผลอะไร มาให้พระอาจารย์ยุ่งยากด้วย น่าละอายเทวดามากขอรับ และกระผมเริ่มออกจากอุดรฯ มาก็ได้ตั้งใจไว้ว่าจะเดินด้วยฝีเท้า ไม่ขึ้นรถเรือใด ถ้าคำตั้งในนี้ล้มเหลว ก็เรางว่าจะไม่ปลอดภัยแก่กระผมในอนาคต จะอย่างไรก็ฝากฝังชีวิตกับพุทธ ธรรม สงฆ์ ผูกขาดจองขาด เลือดทุกหยดจะถวายบูชาต่อพุทธ ธรรม สงฆ์นั่นแหละขอรับ คงจะไม่เป็นวาจามุทะลุหรือประการใด (37)

·       ขอมอบกายถวายชีวิตต่อพระอาจารย์ ผูกขาดทุกลมปราณ ตลอดทั้งคณะสงฆ์ในที่นี้ทุกๆ องค์ด้วย ข้าน้อยว่าจะมาแต่ปีกลายนี้ แต่ท่านเจ้าคุณเทพกวีบอกว่าให้ไปหัดภาวนากับหลวงพ่อบุญมีวัดป่าหนองน้ำเค็มเสียก่อนในปีนี้
·       อดีตอนาคตทางพระพุทธศาสนา ไม่ใช่ว่าจะเป็นของไม่มีค่าเหลิงเจิ้งไปหมดโดยส่วนเดียว อดีตที่เป็นประโยชน์ก็จะได้เอามามาเป็นเยี่ยงอย่างในทางดี ที่ไม่เป็นประโยชน์ก็จะได้เข็ดหลาบเว้น แม้อนาคตที่ตั้งสัตย์ไว้สิ่งที่เป็นประโยชน์ก็จะได้เตรียมรักษาไว้ สิ่งที่ไม่เป็นประดยชน์ก็จะได้เว้น เช่น เราเดินทางแม้ขาเราจะยังไม่ก้าวไปถึงก็ตาม ก็ต้องเป็นที่จะก้าวที่จะเหยียบล่วงหน้าก่อนก้าวไป ผู้ปฏิบัติธรรม เพื่อหลุดพ้นจากความหลงและความเข้าในผิดอันมึนงงไม่โยงอดีต อนาคตเป็นพยานกันในปัจจุบันพลันด่วนให้ชัดแจ้ง แม้จะมีนิสัยวาสนาเป็นสุกขวิปัสสโกก็ตาม ก็ต้องบริบูรณ์ด้วยญาณสาม ยกอุทาหรณ์เช่น เห็นไตรลักษณ์ในปัจจุบันชัด ไตรลักษณ์ในอดีต อนาคตก็มาเป็นพยานกันเสมอภาค เมื่อมีพยานสองปาก มิใช่พยานเท็จ พยานปัจจุบันก็ตัดสินพร้อมทั้งเป็นพยานเพิ่มเข้าอีกอยู่ในตัว (106)

·       ไม่ว่าธรรมส่วนใดถ้าสำคัญตนว่าเสวยเป็นอันผิดทั้งนั้น
·       หลักพิสูจน์ของการปฏิบัติก็มีอยู่ว่าสิ่งใดที่เป็นการส่งเสริมให้กิเลสมากขึ้นสิ่งนั้นไม่ถูก ถ้าประพฤติถูกกิเลสก็ห้ามล้อหรือเบาลงหรือเหือดแห้งหายขาดไป ผลรายรับต้องปรากฏอย่างนี้แก่ผู้ปฏิบัติขณะที่ทวนดูตนดูใจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น