ได้ sleep profile มาดังนี้
- ความต้องการการนอนต่อวัน 4 ชม. (ได้จาก ตื่นสดชื่นมาทั้งคืน กลับบ้านหลับเป็นศพไป 4 ช.ม.)
- ในความต้องการนี้สามารถผ่อนจ่ายได้ (หลับแบบนั่งบ้าง ดึงสติบ้าง ถือเป็นการผ่อนจ่ายได้)
- สามารถเหมารวมจ่าย 2 วันได้ (สังเกตจาก กลับบ้านมีสิ่งที่ต้องทำตอนเช้าต่อ นอนไม่ได้ มานอนรวมคืนวันอาทิตย์ทีเดียวเลยได้
- แม้จะงกๆ เงิ่นๆ แต่ทำดีกว่าไม่ทำ กำลังที่ได้แม้จะต่ำสุดก็สูงกว่านอนสลบไสลอยู่บ้าน
ตั้งแต่มีนาคมเป็นต้นมางานระบบบีบเข้ามาเรื่อยๆ มีเหตุท้าทายอยู่ร่ำไป จันทร์ถึงศุกร์คือวันมอมแมม เสาร์อาทิตย์คือวันล้างตัว ล้างได้ดีวันจันทร์จะสดใส หลังจากนั้นก็หมองขึ้นตามลำดับไปบัดซบสุดที่วันพฤหัส ส่วนวันศุกร์มักจะออกอารมณ์ปลงๆ
ถ้าล้างไม่มีจะมีอารมณ์ค้างมาจนถึงวันจันทร์ เช่นจันทร์นี้ 7/9/58 ยังมีความเซ็งตกค้าง แต่กระนั้นด้วยเหตุที่ทำมาเสาร์อาทิตย์ ก็ยังไม่ไหลไปรวมจนถือเอาตัวถือเอาตนมาอย่างหนาแน่ ออกจะเป็นแนวปลงๆ ปล่อยๆ ดีก็ช่าง ชั่วก็ช่าง ขี้เกียจยุ่ง
เริ่มสงวนวาจา สนใจในวาจาที่จะออกจากปาก ไม่รู้แน่ชัดว่าต้องให้เท่าทันที่จุดไหน ประมวลมาได้คร่าวๆ ว่า ระวังใจ ระวังหู ระวังปาก
บางทีคำว่าทำตามหน้าที่ แล้วพูดอาจจะจังหวะเร็วไป หักมุมเกินไป แม้จะเป็นความจริง สิ่งนี้อาจไม่จัดว่าเป็นเมตตาวจี
อาทิตย์ที่ผ่านมาได้ฟังเรื่อง ใจเขามาใส่ใจเรา ตอนฟังอารมณ์เป็นสบายๆ แต่ทำยังไงจึงจะดึงมาใช้ได้ทันกาล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น