อยู่ในแผ่นดินท่านมา 30 ปี ไม่เคยได้รับรู้ถึงบารมีที่ชัดเจนของท่าน
จนเมื่อสิ้นท่าน กลับพบว่าจิตใจสัมผัสบารมีท่านได้ชัดเจนมาก
และไม่ใช่ข้อมูลมือสองที่ถูกคนนู้นนี้นั้นบอกเล่าว่าท่านดีอย่างนั้นอย่างนี้
ทั้งหมดนี้มาในรูปของมโนผัสสะ
การสังเกตจิตใจมาตั้งแต่วันที่ 12 ตุลา จิตพะวงถึงท่านเนืองๆ
กลับบ้านรู้สึกเป็นหน้าที่ที่จะต้องสวดมนต์ถวายท่าน
13 ตุลาคม เช้ามารู้สึกกล้าๆ กลัวๆ ในการเปิดเน็ต ด้วย "กลัวเจอข่าวร้าย"
แต่ก็ยังไม่เจอ จนผ่านไประหว่างวัน จิตใจสงบราบเรียบจริง
จึงได้รับ "ข่าวร้าย" ที่ว่า
และจึงมีคลื่นให้สัมผัสตามการเปลี่ยนแปลงของจิตใจ
เบื้องแรกที่ได้รับข่าว พบว่าจิตเฉยๆ จะบิ้วท์ให้เศร้าก็เศร้าไม่ออก
อาการภายนอกดูสลด น้ำตาซึม แต่ภายในกลับรู้สึกมีบางสิ่งช่วยประคองอยู่
และเป็นอาการขึ้นๆ ลงๆ ไม่นานก็กลับมาสงบราบเรียบ
ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะมั่นใจว่าเราได้ทำงานถวายท่านด้วยจิตที่ตั้งดีแล้ว
ช่วงเวลาเดินกลับบ้านสัมผัสถึงความสงบแห่งกลางคืน ที่ไม่ได้สัมผัสมานาน
14 ตุลาคม ตั้งใจไปทำงาน อยู่ๆ ประกาศหยุด
พี่นพก็เป็นใจให้เราไปร่วมงานได้เต็มที่
คาดว่าน่าจะได้รับผลกระทบจากคลื่นอารมณ์มหาชน
แต่กลับพบว่าตัวเองก็ยังนิ่งได้อย่างประหลาด อย่างไรก็ตามก็รู้สึก
ว่าไม่ใช่ไม่เศร้าหรอก แต่ว่าสมาธิคุ้มครองอยู่
ตอนรถท่านผ่านไป น้ำตาก็ไหลอาบ 2 แก้ม แล้วก็หยุดเพียงนั้น
ยังคงสัมผัสบรรยากาศเสียงนก เสียงอะไร รอบๆ ได้ต่อไป
มาน้ำตาแตกเอาตรงได้อ่านในเฟสบุคนิดๆ หน่อยๆ
15 ตุลาคม
นั่งดูอาการ พบว่ามันเศร้าแบบไม่กระทบอัตตา
คือ เป็นความสลดระดับอณู
คงเนื่องด้วยท่านเป็นผัสสะที่ไม่ใช่ "ของเรา" โดยตรง จึงอาจไม่กระตุ้นอัตตาให้ขึ้นตะครุบแล้วยึดตามด้วยแปลงร่างเป็นสารพัดรูปแบบ คือ อันนี้เหมือนกัน ไม่มีเหตุผลให้เศร้านะ แต่เศร้า เพียงแค่เศร้าเท่านั้น
ออกจากบ้านมองสีไม่เป็นสี (แต่วันนี้ก็ดีขึ้นกว่าวันที่ 14)
ความสลดนิดๆ นี้พอดีแก่การภาวนา
การได้รับรู้กรณียกิจของท่านทำให้ กระแสแห่งการทำหน้าที่ราวกะว่าจะตื่นขึ้นมา
เรียกว่าเป็นพลังให้เกิดสติอย่างบอกไม่ถูก มีข้อสังเกตนึงที่ใช้คำได้ตรงมาก
"เป็นมนุษย์ที่ดีขึ้นในชั่วข้ามคืน"
"ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ยิ่งใหญ่ สิ่งที่ท่านทำไว้ไม่สูญเปล่า ท่านได้เพาะเมล็ดพันธ์แห่งความดีงามโดยที่เราไม่รู้ตัวเลย โครงการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการเป็นบุคคลต้นแบบ เสียสละในแง่มุมต่างๆ เพื่อให้เราเลือกเดินตามในแบบของเรา
"ตอนเด็กเพียงรับรู้แล้วผ่าน แต่สิ่งเหล่านี้กลับซึมซับเข้ามาโดยไม่รู้ตัว"
The power of routine
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น