วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2559

กษัตริย์เขาเป็นกันอย่างนี้

คนอื่นอาจไม่สงสัย แต่ผมสงสัย
ว่าเหตุใดวันธรรมดาของพระเจ้าอยู่หัว
จึงเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่สำหรับคนไทยทั้งแผ่นดิน
เหตุใดคนไทยยังเทิดสถาบันกษัตริย์ไว้ในที่สูงเหนือการแตะต้อง
และเหตุใดความรู้สึกของมหาชน
จึงรวมศูนย์ไปอยู่ที่บุคคลเพียงคนเดียว
ได้อย่างพร้อมเพรียงไม่แตกแถว
ผมอยากทำความเข้าใจ
ว่าทำไมแค่เห็นก็นึกอยากเสียสละทุกสิ่งเพื่อพระองค์ท่าน
และที่สำคัญ เพราะอะไรราชวงศ์ในโลกยังมีอยู่หลายประเทศ
แต่ความภูมิใจของพสกนิกร
ที่มีต่อองค์พระประมุขของตนจึงไม่เท่าเทียมกัน
ถึงวันนี้คิดว่ามีคำตอบให้ตัวเอง
รัศมีแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช
ที่ฉายออกมาให้สัมผัสด้วยใจนั้น
คือหลักฐานแห่งการุณยภาพอันยิ่งใหญ่เหนือมนุษย์
ไม่จำเป็นต้องเห็นว่าพระองค์ท่าน
เคยบำเพ็ญพระราชกรณียกิจไว้แค่ไหน ณ แห่งหนตำบลใดบ้าง
ใครๆก็ต้องเชื่อว่าพระองค์ท่าน
มีพระชนม์ชีพเพื่อคนอื่นมานานแสนนาน
กระแสดึงดูดให้รู้สึกรัก รู้สึกศรัทธาท่วมท้น
มิได้หลั่งมาจากฟากสวรรค์
มิใช่ลอยมาจากการที่มนุษย์อุปโลกน์มนุษย์ด้วยกัน
ให้เป็นองค์สมมติเทพ
ทว่าเป็นผลธรรมดามาจากปัจจุบันกรรม
อันสมควรแก่การเป็นกษัตริย์อย่างแท้จริงของพระองค์ท่านเอง
ถ้าใครศึกษาพระไตรปิฎกแล้วสงสัยว่า
การบำเพ็ญบารมีแห่งมหาโพธิสัตว์
ผู้ควรแก่การบรรลุพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ
ในอนาคตกาลเป็นอย่างไร
ให้มาดูมหาทานแห่งองค์รัชกาลที่ ๙ นี้ แล้วจะเข้าใจ
และจะเชื่อว่าพระโพธิสัตว์มิใช่เป็นเพียงตำนานเล่าขาน
แต่มีจริง และพวกเราก็เกิดทันยุคของพระองค์ท่าน!
รากอันเป็นที่สุดของกษัตริย์คือ
เมตตาการุณยจิตอันปราศจากประมาณ
พูดให้ง่ายคือชอบช่วยคนไม่เลือกหน้า
โลกจึงมีตำแหน่งกษัตริย์เป็นฐานหนุนให้ได้ทำตามปรารถนา
และปัจจุบันระบอบการปกครองของไทย
ก็เอื้ออำนวยให้กษัตริย์ออกโปรดราษฎรได้เต็มที่
เนื่องจากมีรัฐบาลและข้าราชการดูแลบริหารบ้านเมือง
ตัดสินคดีความต่างๆให้ โดยพระองค์ไม่ต้องลำบากพระวรกาย
ไม่ต้องลำบากพระทัยเหมือนกษัตริย์ยุคโบราณ
จึงกล่าวได้ว่าประเทศเราในกาลนี้เปิดโอกาสให้ผู้มีบุญญาธิการสูงสุด
ได้แสดงกำลังพระทัยว่ายิ่งใหญ่สมพระเกียรติยศเพียงใด

หากคุณเคยเห็นคนอนาถาวัยเด็กวัยชรา
เรือนร้อย เรือนพัน หรือเรือนหมื่นกับตา
คุณรู้ คุณเข้าใจ คุณเวทนา คุณปรารถนาจะช่วยเหลือพวกเขา
และคุณลงมือช่วยเหลือพวกเขาได้ระดับหนึ่ง
ความสุขความอบอุ่นจะเอ่อล้นอก
ตามระดับกำลังใจขนาดนั้นๆของคุณ
แต่ยากนักที่คุณจะเห็น เข้าใจ
และประมาณถูก ว่าคนเรือนล้านมีขนาดไหน
กับทั้งยากกว่านั้น ที่จะมีกำลังใจใหญ่หลวงขนาดคิดอุทิศทั้งชีวิต
เพื่อช่วยคนเรือนล้านทั้งหมดนั้น ให้ได้อยู่ดีกินดี มีความเห็นชอบ
มีกรรมขาวเป็นที่พึ่งแก่ตนอย่างถาวร
พระจิตแห่งในหลวงรัชกาลที่ ๙ ท่านรู้เห็น
ว่าประมาณคนเรือนล้านคืออะไรแค่ไหน
และพระจิตแห่งองค์ท่านก็ใหญ่พอ
ที่จะทรงปรารถนาช่วยคนลำบากยากจนหลายสิบล้าน
ในพระราชอาณาจักรของท่านให้หมด
โดยปราศจากเงื่อนไขแลกเปลี่ยนหรือปรารถนาสิ่งตอบแทนอื่นใด
นั่นมิใช่สิ่งที่คนธรรมดา หรือแม้ราชามหากษัตริย์ทั่วไปจะเข้าใจได้
คนดีๆตามท้องถนนธรรมดา อาจให้อภัยใครต่อใครไม่เลือกหน้า
น้ำใจเช่นนั้น คือเมตตาระดับที่ทำให้คนสัมผัสแล้วพลอยสงบตาม
สะกดความคิดร้ายจองเวรของศัตรูได้
คนแสนดีตามสถานสงเคราะห์
อาจค้อมหลังก้มหน้าช่วยเหลือผู้ตกยากมากมาย
น้ำใจเช่นนั้นคือเมตตาระดับที่เหนี่ยวนำคนใกล้ชิดให้เลื่อมใสศรัทธา
และอาจเปลี่ยนศัตรูมาเป็นมิตรได้
ประมุขหรือผู้ปกครองบ้านเมือง
อาจมีใจผูกพันกับการคิดแต่จะช่วยคนทั้งประเทศให้กินดีมีสุขและรอดพ้นจากหายนภัย
น้ำใจเช่นนั้นคือเมตตาระดับที่ก่อให้เกิดแรงปีติมากพอจะยอมตายแทน
และอาจเป็นแม้ที่รักของศัตรูได้
เมตตาที่ก่อผลกระทบกับผู้พบเจอได้นั้น
ต้องเป็นเมตตาที่ออกมาจากใจจริง
คือคิดดีกับคนอื่นจริง คิดให้คนอื่นจริง
ตลอดจนพูดและทำเพื่อคนอื่นจริง
หาไม่แล้ว แม้สร้างฉากพ่อพระแม่พระให้แนบเนียนอย่างไร
รัศมีเมตตาก็ไม่บริสุทธิ์ ไร้อิทธิพลพอจะจูงให้ใจผู้อื่นพลอยสงบตาม
อย่าว่าแต่จะให้เลื่อมใสศิโรราบหรือยอมตายแทน
นอกจากพระอรหันต์ผู้สงเคราะห์สัตว์โลกด้วยน้ำจิตบริสุทธิ์หมดจด
ก็เหลือแต่พระมหาโพธิสัตว์เจ้า
ที่ทรงมีน้ำพระทัยครุวนาดั่งมหาสมุทรใหญ่เท่านั้นที่ปานกัน
เมื่อทรงยอมอุทิศชีวิตให้ปวงชน
ประกายเมตตาก็ย่อมเหนี่ยวนำใครต่อใคร
ให้พร้อมพลีชีพเพื่อพระองค์ท่านเช่นกัน
การที่พระราชาไทยองค์ปัจจุบันทรงเป็นกษัตริย์โดยปัจจุบันกรรม
มิใช่เพียงกษัตริย์เพราะอดีตกรรมส่งมากำเนิด
เช่นนี้เท่ากับพระองค์ท่านทรงช่วยให้เราตอบลูกหลานได้ง่ายขึ้น
ว่าทำไมไทยเราจึงยังควรเทิดทูนระบบกษัตริย์
แตกต่างจากราชวงศ์อื่นในบางประเทศ
ที่อาจถูกล้อเลียนหรือกล่าวพาดพิงถึงอย่างไม่ต้องเกรงใจ
หาใครลุกฮือขึ้นประท้วงเอาเรื่องไม่ได้
นั่นก็เพราะคนยุคนี้ ดื้อเกินกว่าจะเทิดทูนบุคคลที่ปราศจากคุณงามความดี
คนยุคนี้ไม่แยแสยศถาบรรดาศักดิ์เพียงเพราะเกิดในวังอีกต่อไป
ใครจะอยู่ในหัวใจคนยุคนี้ได้
ก็ต้องดูแบบอย่างจากกษัตริย์ไทยพระองค์นี้แหละ
.....................................................................
▫️ภาพเดียวแทนพันคำ
ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ท่านเป็นกษัตริย์ให้ดู
ว่ากษัตริย์เขาเป็นกันอย่างนี้
แค่ให้เด็กๆของเราเห็นจากโทรทัศน์
ว่าพระองค์ทรงทำอะไรให้อะไรกับพสกนิกรบ้าง
เด็กๆก็จะเงียบเสียงแห่งความสงสัย
และหันหน้าไปบอกต่อกันรุ่นต่อรุ่นว่า
พระมหากษัตริย์คือใครในแผ่นดิน
และเหตุใดจึงไม่น่าแปลกใจ
หากทั้งโลกจะไม่ลืมพระองค์ไปจนสิ้นกาลนาน
เป็นหนึ่งในโลกไม่ใช่เพราะชนะสิบทิศ
ด้วยแสนยานุภาพเกรียงไกร
แต่ด้วยหนึ่งใจและสองมือ
ของผู้สมควรเป็นกษัตริย์โดยธรรม
***คัดลอกจากบทประพันธ์ "ประกายเมตตาแห่งราชาไทย" โดย ดังตฤณ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น