เดินจงกรมเช้า ตากระทบแสงส่องไฟฉายแว่บไปแว่บมา ในก็ถูกลากให้แกว่งไปแกว่งมาตามความไหวของแสงไฟนั้น ก่อปฎิฆะขึ้นมา เมื่อหลายรอบเข้าก็พบว่าปัญญาดับ นึกหันไปจะกล่าวห้ามกิริยาผู้อื่นอยู่ 2 ครั้ง ก็ระงับไว้เสียด้วยระลึกธรรมข้อวีรตีและขันติขึ้นมา ว่าหากหันไปขณะนี้ ต่อให้พูดดีมีเหตุผลขนาดไหน ก็ย่อมเป็นวาจาทุจริต
แล้วใจก็นึกในทางกลับกัน โอ ใจนี้น่าสงสารหนอ ถูกอารมณ์กระชากไปมา ไม่เป็นตัวของตัวเอง แม้สุขกับเพราะอารมณ์นั้นลากไป แม้ทุกข์ก็เพราะอารมณ์นั้นลากไป ใจนี้ไม่เป็นใหญ่ ยังไม่มีกำลังพอจะต้านทานการลากไปมาของอารมณ์นี้ เมื่อไม่สามารถเปลี่ยนผัสสะ หรือไม่ใส่ใจได้ ด้วยแรงกระชากนั้นรุนแรงเกินไป เราจะพึงบริกรรมเพื่อให้ใจมีที่ต้านทานเสีย
เมื่อกวาดลานวัด
กวาดลานก็เหมือนถือศีล เมื่อกำหนดวัตถุประสงค์ ก็ไม่ต้องเนี้ยบก็ได้ เอาแค่ตะไคร่ไม่ขึ้นก็พอ ศีลก็เอาพอแก่สมาธิและปัญญา ไม่จำเป็นต้องเนี้ยบทุกกระเบียดจนเคร่งเครียด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น