ถ้าบอกว่าเราตอนเด็ก กับเราตอนโตเป็นคนละคนกัน
ถ้าอย่างนั้น
- เด็กที่ไปเรียนหนังสือก็คนหนึ่ง - เด็กที่รับปริญญาก็อีกคนหนึ่ง
- คนที่ทำกรรมก็คนหนึ่ง - คนที่รับผลก็อีกคนหนึ่ง
- คนที่หกล้มก็คนหนึ่ง - คนที่เจ็บก็อีกคนหนึ่ง
- แม่ของเด็กก็คนหนึ่ง - แม่ของคนโตก็อีกคนหนึ่ง
ที่บอกว่าเป็นคนเดียวกันตั้งแต่เด็กจนโต
เพราะอาศัยกายเดียวกันนี้แหละ
เหมือนจุดตะเกียง มันย่อมสว่างตั้งแต่หัวค่ำยันรุ่งเช้า
ตะเกียงนี่เป็นอันเดียวกัน
แต่เปลวไฟตอนต้น ตอนกลาง ตอนปลาย ไม่ใช่อันเดียวกัน
เหมือนวิญญาณก่อนเกิดขึ้นแล้วดับไป วิญญาณใหม่เกิดขึ้น
วิญญาณก่อนก็สงเคราะห์ลงกับวิญญาณหลัง
เพราะธรรมมันสืบต่อกัน เกิดขึ้นแล้วดับไปสืบต่อกัน
จึงจะบอกว่าเป็นคนเดียวกันก็ไม่ได้ เป็นคนละคนก็ไม่ได้
***
เหมือนนมสด เมื่อตั้งไว้ ก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป กลายเป็น นมส้ม - เนยใส - เปรียง
ถามว่า เป็นอันเดียวกัน หรือเป็นคนละอัน
จะบอกว่าเป็นอันเดียวกันก็ไม่ถูกแน่
แต่นมส้ม ก็อาศัยนมสด
อาศัยนมส้ม จึงเกิดเนยใส
อาศัยเนยใส จึงเกิดเปรียง
คือมันไม่ได้ตัดขาดแบบหายไปจากกันเลย แต่มันอาศัยกันเกิด
คือตามปรมัตถ์ มันเกิดดับขาดกันก็จริง แต่ต้องเข้าใจด้วยว่ามันต่อกันเป็นกระแสและอาศัยกัน
ไม่ใช่ว่าเกิด-ดับแล้วหายเงียบ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับใคร
เพราะมันสืบเนื่องกันแบบนี้แหละ จะบอกว่าเป็นอันเดียวกันก็ไมได้ จะบอกว่าเป็นคนละอันก็ไม่ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น