วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2557

รอยต่อ

ทุกข์ทำให้เกิดศรัทธา - คือเชื่ออย่างมีเหตุผลว่ามันไม่คงที่
ศรัทธาทำให้เกิดปราโมทย์ - คือความร่าเริงบันเทิงใจ
ปราโมทย์ทำให้เกิดปีติ - คืออิ่มเอิบ
ปีติทำให้เกิดปัสสัทธิ - เมื่อซาบซ่านย่อมไม่แส่ส่าย
ปัสสัทธิทำให้เกิดสุข -
ความสุขทำให้เกิดสมาธิ
สมาธิทำให้เกิดยถาภูตญาณทัสนะ - ปัญญาเห็นเหตุปัจจัย
ยถาภูตญาณทัสนะทำให้เกิดนิพพิทา - เบื่อ
นิพพิทาทำให้เกิดวิราคะ - คลายกำหนัดในสิ่งนั้น
วิราคะทำให้เกิดวิมุตติ - หลุดพ้น
วิมุตติทำให้เกิดญาณ - อาสวักขยญาณ

ศรัทธา คือ โสดาปัตติยังค 4
หากมีศรัทธาในพระพุทธแต่ยังประมาทอยู่ ปราโมทย์จะไม่เกิด -- ปีติไม่เกิด -- ปัสสัทธิไม่เกิด ฯลฯ นั่นคือเลื่อมในอย่างเดียว "ไม่พอ" หากแค่เลื่อมใส แต่ไม่เจริญ ปราโมทย์ ปีติ ปัสสัทธิ

การพบสัตบุรุษทำให้เกิดการฟัง - การฟังทำให้เกิดศรัทธา - ศรัทธาทำให้เกิดโยนิโส - โยนิโสทำให้เกิดสติสัมปชัญญะ - สติสัมปชัญญะทำให้เกิดอินทรีย์สังวร - อินทรีย์สังวรทำให้เกิดสุจริตสาม - สุจริตสามเป็นอาหารให้กับสติปัฏฐานสี่ - สติปัฏฐานสี่เป็นอาหารให้กับโพชฌงค์เจ็ด - โพชฌงค์เจ็ดเป็นอาหารแก่วิชชาและวิมุตติ

สัมมาทิฏฐิ ขึ้นจาก 2 อย่าง การได้ฟัง และการโยนิโส

-----
ถ้าไม่มีเราได้ ก็ไม่มีเราเสีย

สัญญาในเสียง สัญญาในธัมมารมณ์ สัญญาในเนื้อเรื่อง

ความเห็นผิดว่ามีเราเข้ามากลุ้มรุม "เขาว่าเรา"
---------

อวิชชาเป็นปัจจัย สังขารจึงมี (วจีสังขาร, กายสังขาร, จิตสังขาร)
ไม่รู้จักว่านี่เป็นสังขารที่เกิดจากสัญญา - - - ทิฏฐิอุปาทาน ยึดมั่นกับความคิดความเห็นทันที, เทิดค่า

ความคิดนี้ก็ไม่ใช่เรา ก็อยู่กับมันอย่างสบายๆ -- สมาธิเกิดขึ้นอย่างนี้

--------
เมื่อมีศีลก็ไม่มีความกังวล
เมื่อไม่มีความกังวล ก็ไม่ต้องมีเจตนาเพื่อให้เกิดปราโมทย์ (ความเบิกบานเกิดขึ้นเองโดยไม่ต้องทำอะไร)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น