วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2561

เพียรแล้วแต่ไม่ได้ผล?

เพียรแล้ว...แต่ไม่ได้ผล
ท่านก็ไม่ได้บอกว่ามันจะต้องได้ผล...แต่บอกแต่ให้เพียร
ได้ผล/ไม่ได้ผลนี่ มันเกินท่านว่า

สิ่งที่ให้เจริญ คือ ความเพียร
ได้ผลไม่ได้ผล ก็ให้เจริญความเพียร

คือ เพียรแล้ว แต่กิเลสไม่หมด
มันหมดได้เพราะอริยมรรคตัด

แต่เพียรให้เจริญขึ้นไป
เลี้ยงความเพียรให้โตขึ้น จนเป็นอินทรีย์ เป็นพละ เป็นโพชฌงค์

จนมันไปทำงานกับคนอื่นเป็นสัมมาวายามะ
นั่นแหละจึงละกิเลส

แต่หน้าที่คือ เพียรไง...
มาบ่นตอนเจริญความเพียรว่า ได้ผล/ไม่ได้ผล
ก็เอาตัณหามานำหน้าเท่านั้นเอง

พวก "ความสุข" "ความสงบ" "ความปลอยวาง"
พวกนี้เป็นชื่อนิพพาน
หน้าที่ต่อนิพพานคือ ทำให้แจ้ง
ไม่ใช่ให้เจริญ พวกเราชอบมาเจริญความสุข...มันก็เป๋สิ

เปรียบเทียบกับนิพพาน หรือ ความสงบ ความปล่อยวางนี่เป็นการ "กินผลไม้"
พอมันสุกได้ที่ เราก็ได้ "กินผลมัน" (คือมันแจ้ง)
แต่เจริญความเพียรคือ "การปลูกต้นไม้"
เป็นการรดน้ำพรวนดิน ผลมันยังไม่ออก หน้าที่คือ "ทำต่อไป" ไง ^_^

ฝึกสติ เอาสติ
ฝึกความเพียร เอาความเพียร

รู้หน้าที่ต่อมัน นี่เรียกว่าฉลาด

ขันธ์ ธาตุ อายตนะ - ควรรู้
วิชชาและวิมุตติ - ควรทำให้แจ้ง
สมถะและวิปัสสนา สติปัฏฐาน สัมมัปปธาน อิทธิบาท อินทรีย์ พละ โพชฌงค์ มรรค - ควรเจริญ
ฉลาดในเหตุ - ทำเหตุให้เยอะๆ
ฉลาดในผล - ให้รู้ว่ามันเป็นวิบาก

ควรเจริญ คือ ทำให้มันมี ให้มันเยอะ
ไม่ใช่เจริญความปล่อยวาง
อันนี้ทำกิจไม่ถูก

"อยากสงบ"
อยาก - ให้ละ
สงบ - ทำให้แจ้ง

ปุถุชนจะงงเรื่องนี้อยู่ ก็ทำกิจผิดพลาดไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น