ทิฏฐิกับมานะ
กิเลสคนละตัว
อาการคล้ายๆ กัน
แต่ไม่เหมือนกัน และไม่เกิดพร้อมกัน
ในโลภมูลจิต 8 ดวง
มีทิฏฐิประกอบ 4
ไม่มีทิฏฐิประกอบอีก 4
ในที่ไม่มีทิฏฐิประกอบ 4 นี้
บางอันมีมานะประกอบ บางอันไม่มีมานะประกอบ
แต่อันไหนที่มีทิฏฐิ จะไม่มีมานะ
อันไหนมีมานะ ไม่มีทิฏฐิ
หลักคืออย่างนี้
เวลาของขึ้นนี่ บางทีด้วยทิฏฐิ บางทีด้วยมานะ
จริงๆ ทิฏฐินี่นานๆ เกิดที
ส่วนมากเป็นมานะ
คือกิเลสอะไรยิ่งเกิดบ่อยคือ ยิ่งละยากโดยธรรมชาติ
อยากรู้ว่าอะไรเกิดบ่อย
ไปดูอันไหนละยากสุด
เช่น ทุจริตนี่นานๆ เกิดที แต่ฟุ้งซ่านนี่ทั้งวัน
พูดโกหกนี่นานๆ ที แต่สัมผัปปลาปะนี่โคตรเยอะ
ทีนี้ก็มาดูมานะละทีหลัง
มานะเกิดบ่อยกว่าทิฏฐิ
อันนี้เป็นหลักการดู
การ "สำคัญตน" นี่เป็นมานะ
เราเป็นคนไทย
นี่แผ่นดินของเรา ใครห้ามเหยียบ
อันนี้มานะ ไม่ใช่ทิฏฐิ
พอสำคัญตนว่าเป็นอะไร
ก็จะเปรียบเทียบกับคนอื่น
อันนี้เป็นของเรานะ (เช่น ของศาสนาเรา ของประเทศเรา ของบริษัทเรา)
"จึงต้องรักษา" แล้วก็มีเรื่องกัน
เราเรียนมา
คุณพูดไม่เหมือนเรา
ทะเลาะกัน อันนี้เป็นมานะ
ส่วนทิฏฐินี่จะเห็นผิด
เห็นผิดว่าเป็นเรา เป็นของเรา
แต่ไม่ค่อยเกี่ยวกับไปสู้อะไรกับใคร
เช่น เทวดาไม่มี ทานไม่มีผล
พิธีกรรม โชคลางนั่นนี่
อัันนี้เป็นทิฏฐิ
คนที่รบกันเพียงเพราะเถียงกันว่าเทวดามีไม่มีนี่ ไม่เยอะนะ
นานๆ จะขึ้นมาสักที จะเถียงก็เถียงกันขำๆ เสียส่วนใหญ่
หรือสักกายทิฏฐิ 20
นานๆ จะขึ้นที เช่น ตอนส่องกระจก เห็นรูปเป็นตน
เวทนาเป็นตน จะเห็นก็ตอนเจ็บปวด ก็นานๆ ทีอีก
อันนี้มันไม่เถียงใครนะ
เยอะสุดๆ ไปเลยคือ อวิชชา
เพราะละหลังเขาเพื่อน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น