อานนท์ !
สัตว์ทั้งหลาย
มีกายต่างกัน มีสัญญาต่างกัน มีอยู่ ; ได้แก่มนุษย์ทั้งหลาย,
เทวดาบางพวก และวินิบาตบางพวก : นี้คือ วิญญาณฐิติ ประเภทที่หนึ่ง.
๒.อานนท์ ! สัตว์ทั้งหลาย มีกายต่างกัน มีสัญญาอย่างเดียวกันมีอยู่ ;
ได้แก่พวกเทพผู้นับเนื่องอยู่ในหมู่พรหมที่บังเกิดโดยปฐมภูมิสัญญาแห่งปฐมฌาน และสัตว์ทั้งหลายในอบายทั้งสี่สัญญาในอกุศลวิบาก :
นี้คือ วิญญาณฐิติ ประเภทที่สอง.
๓.อานนท์ ! สัตว์ทั้งหลาย มีกายอย่างเดียวกันกายผึ่งผายเหมือนกัน มีสัญญาต่างกันมีแต่วิจารบ้าง
หรือไม่มีทั้งวิตกวิจารบ้าง มีอยู่ ; ได้แก่พวกเทพอาภัสสระ
: นี้คือ วิญญาณฐิติ ประเภทที่สาม.
๔.อานนท์ ! สัตว์ทั้งหลาย มีกายอย่างเดียวกันงดงามเหมือนกัน มีสัญญาอย่างเดียวกันสัญญาจตุตถฌานเหมือนกัน
มีอยู่ ; ได้แก่ พวกเทพสุภกิณหะ : นี้คือ วิญญาณฐิติ
ประเภทที่สี่. รวมถึงเทพเวหัผลาก็รวมอยู่ (บ้างไม่รวมสุทธาวาสเพราะถือว่าเป็นฝั่งวิวัฏฏะ)
๕. อานนท์ ! สัตว์ทั้งหลาย, เพราะก้าวล่วงเสียได้ซึ่งรูปสัญญาโดยประการทั้งปวง
เพราะความดับไปแห่งปฏิฆสัญญา เพราะไม่ใส่ใจนานัตตสัญญา จึงเข้าถึง อากาสานัญจายตนะ
มีการทำในใจว่า”อากาศไม่มีที่สุด” ดังนี้
มีอยู่ : นี้คือ วิญญาณฐิติ ประเภทที่ห้า.
๖.อานนท์ ! สัตว์ทั้งหลาย, เพราะก้าวล่วงเสียได้ซึ่งอากาสานัญจายตนะโดยประการทั้งปวง
จึงเข้าถึง วิญญาณัญจายตนะ มีการทำในใจว่า “วิญญาณไม่มีที่สุด”
ดังนี้ มีอยู่ : นี้คือ วิญญาณฐิติ ประเภทที่หก.
๗.อานนท์ ! สัตว์ทั้งหลาย, เพราะก้าวล่วงเสียได้ซึ่งวิญญาณัญจายตนะโดยประการทั้งปวง
จึงเข้าถึง อากิญจัญญายตนะ มีการทำในใจว่า “อะไร ๆ ไม่มี”
ดังนี้ มีอยู่ : นี้คือ วิญญาณฐิติ ประเภทที่เจ็ด.
ก็เนวสัญญานาสัญญายตนะ
มีวิญญาณก็ไม่ใช่ ไม่มีวิญญาณก็ไม่ใช่
เพราะแม้วิญญาณละเอียดเหมือนความละเอียดของสัญญา เพราะฉะนั้น
ท่านจึงไม่กล่าวในวิญญาณฐิติแล้วกล่าวไว้ในอายตนะ (สัตตาวาส 9)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น