คนนู้นอ้างอย่างนู้น คนนี้อ้างอย่างนี้
อ้างสูตรนู้นนี้ เยอะมาก
เราดูรวมๆ ไปเลย
ว่าสิ่งที่เขาพูด สิ่งที่ท่านนี้ๆ สอน เป็นไปเพื่ออะไร
- วิราคาย : เป็นไปเพื่อการคลายความติดความข้อง ถ้าสอนให้เราไปพึ่งนู่นพึ่งนี่...ไม่ไหว
- วิสงฺโยคาย : เป็นไปในลักษณะไม่ประกอบสัตว์ไว้ ไม่ดึงเราไว้ในโลก คำสอนทำนอง "หาสมาชิก"
- อปจยาย : ไม่เป็นไปเพื่อการสั่งสม สั่งสมบุญ สั่งสมนู่นนี่ เอาไปเยอะๆ จะได้ไปเสวยนู่นนี่
- อปฺปิจฺฉตาย : เป็นไปเพื่อความมักน้อย คำสอนที่ทำให้อยากได้นั่นได้นี่ ไม่ใช่
- สนฺตุฏฺฐิตาย : เพื่อพอใจในสิ่งที่ตนมี
- ปวิเวกาย : เป็นไปเพื่อความสงัด เป็นไปเพื่อความอยู่คนเดียว ไม่ใช่เพื่อคลุกคลี หาพวกพ้อง
- วิริยารมฺภาย : เป็นไปเพื่อความขยัน อยากได้อะไรต้องลงมือ และต้องทำให้ถึงจุด ทำไม่ถึงไม่ได้เด็ดขาด ทำแล้วจะมาหวังว่าควรจะได้โดยไม่ได้มีเหตุที่เหมาะสมไม่ใช่ มานั่งหวังลมๆ แล้งๆ ปลอบใจตัวเองจะได้นั่นได้นี่...ผิด
- สุภรตาย : ไม่บ่นกับเรื่องการอยู่การกินเล็กๆ น้อยๆ อยู่ง่าย สบาย คนอื่นคบหาง่าย สะดวก
วิธีมองบุคคล มองภาพรวมของคน
โลกมันไม่มีเหตุผลโดยธรรมชาติ
คนมีญาณก็สบาย เห็นตามที่เป็นจริง ไม่เอาเข้าตัว
พวกมีเหตุผลแต่ยังเป็นทิฏฐิจึงทุกข์สารพัด เพราะยังจะเอาเข้าตัว
คนดี มีอุดมคติจึงทุกข์เยอะ
มองคนแบบองค์รวม...มองง่ายมาก
คนนี้เกิดมาเพราะอะไร
เพราะอวิชชา
ถ้ามองอย่างนี้จะไม่มีปัญหาอะไรกับใครเลย
ทำไม่ดีเพราะอะไร?
เพราะอวิชชา
ทำไมคนนั้นเป็นอย่างนี้ ทำไมคนนี้เป็นอย่างนั้น
เพราะอวิชชา...จบ
เพราะไม่รู้อริยสัจ...จบ
มานั่งวิเคราะห์สาเหตุแบบโลกๆ เหตุปัจจัยมันเยอะมาก
เราว่าเขาได้แสดงว่าเรายังติดกับสิ่งนั้น
สิ่งนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นกับเราเช่นกัน
ทิฏฐินี่เป็นความรู้ แต่เป็นการดึงเหตุผลเข้ามาหาตัว
แม้จะถูก แต่ยังอันตราย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น