สองสัปดาห์ก่อนหน้านี้จิตตก เข้าใจว่ามาจากด้วยงานคุณภาพทำให้เกิดจิตที่จับผิด
คำว่าเกลียดความเลวของคนอื่นที่ก่อนหน้านี้ฟังจากอีกสถานการณ์หนึ่งสามารถบอกได้ไม่ยากว่าเป็นความอ่อนแอ
แต่พอมาแบบนี้ใจกลับเผลอเพ่งโทษและตำหนิติเตียนไปเสียฉิบ
ทุกดูจริงจัง แต่สุขดูผิวเผินนี่ก็เป็นมิจฉาอย่างนึง
social support ได้รับการพิสูจน์ผ่านพี่หญิง
ด้วยเหตุปัจจัยในความคล้ายด้านนิสัย
ปัญหาที่เจอ และความรักดีในธรรมที่ช่วยกันประคองกันออกมาจากความงี่เง่ามาได้
แถมการได้คุยกับครูได้เป็นการทบทวนเทียบเคียงความเบี้ยวตรงกับอดีตและปัจจุบัน
ดังนั้นการเล่าทบทวน การถูกเฝ้าสังเกต ใจที่ถูกบีบให้รีรันความเป็นไป เพื่อหามิจฉาแล้วข้ามผ่านมันไป
เหล่านี้ก็ช่วยได้
วันนี้ไปวิ่งท่ามกลางธรรมชาติ เป็นสภาวะที่ดีมาก
ธรรมชาติมีอะไรบางอย่างที่คนให้ไม่ได้
ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไร
อยู่ท่ามกลางธรรมชาติจะไม่รู้สึกถึงความบีบคั้นบังคับใดๆ ความกว้างใหญ่นี้โอบอุ้มประหนึ่งแม่ดูแลทารกน้อย
ไม่มีความคาดหวัง ไม่มีคำนิยาม ไม่มีกรอบ ไม่มีขอบเขต
เกิดเป็นญานคาดการเอาว่าการอยู่กับธรรมชาตินานพอจะทำให้กลับสู่ความจริงแท้ได้
แต่มีกับดักอยู่นิดตรงที่จะมีราคะอ่อนๆ กระจายบางๆ อยู่ถ้าติดก็ต้องระมัดระวัง
เกิดความคิดขึ้นว่า จิตของเจ้าของนี้ช่างขยันในการท้อแท้นัก
บางครั้งอาจต้องอาศัยการสะกดให้เชื่อ
คงต้องลองสังเกตอิทธิพลของคำกับจิตใจดู
"เชื่อเหอะ แล้วดีเอง" 😀🌒🌓🌔🌕🌖🌗🌘🌙
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น