วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ภพ

ภพ

กามภพ
ภพที่เกี่ยวเนื่องกับกาม
เกี่ยวเนื่องกับรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส

รูปภพ
ภพที่เกี่ยวเนื่องกับอารมณ์สมาธิฝ่ายรูป

อรูปภพ
ภพที่เกี่ยวเนื่องกับสมาบัติที่มีอารมณ์เป็นอรูป

คำว่าภพ หรือภวะ
มีความหมายหลักๆ อยุ่ 2 ประการ

ภพที่หมายถึง กรรม ก็อันหนึ่ง
ภว มีความหมายเท่ากับ กมฺม
ภพ = กรรม = เจตนา
จะพูดว่าภพก็ได้ จะพูดว่ากรรมก็ได้ จะพูดเหมาว่ากรรมภพก็ได้ ความหมายเท่ากัน
ถ้าแปล ก็แปลได้ว่า

กามภพ กรรมที่ทำให้เกิดในกามภูมิ
รูปภพ กรรมที่ทำให้เกิดในรูป
อรูปภพ กรรมที่ทำให้เกิดในอรูป

ความหมายที่ 2 อุปปัตติภพ
ก็คืออุบัติ หรือการเกิด
ซึ่งความหมายก็เหมือนกับ ชาตินั่นแหละ
แต่สื่อถึง "สถานที่" เกิด (ขณะที่ชาติกล่าวถึงตัวความเกิดเลย)

กามภพ ก็คือสถานที่เกิดในกาม ก็ได้แก่ กามภูมิ 11 (มนุษย์ 1 + อบาย 4 + เทวโลก 6)
รูปภพ 16
อรูปภพ 4

ในปฏิจจฯ ภพมีความหมาย 2 ประการ

กรรมภพก็จะหมายถึง ตัวเจตนาที่ต้องการจัดแจงนั่นนี่เพื่อตน

ถ้าปรารภ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส คือจ้องจะเอาสิ่งเหล่านี้
จ้องจะเอาอำนาจ เงินทอง ชื่อเสียงมาเพื่อแล้วตน แล้ว "ทำ"
นี้เรียก กามภพ

ถ้าทำเพื่อตัวตน แต่ทำในแง่ฌาน
ทำให้ตนมีความสุข สงบ เข้าสู่นิพพาน แต่เข้าใจผิดนึกว่าฌานเป็นนิพพาน
เข้าสู่รูปฌาน/อรูปฌาน
อันนี้เรียก รูปภพ/อรูปภพ

อุปปัตติภวะ ความหมายเท่ากับ ชาติ
เพียงแต่ชาติ พูดในแง่ความเกิด
ส่วนอุปปัตติภวะ ความเกิดนี่เกิดต่างกันอย่างไร

จะอธิบายแง่ไหนก็ได้
พูดแบบกรรม ภพเป็นเจตนาให้ไปเกิด (ตัวสภาวะคือตัวเจตนา)
พูดแบบภพภูมิ ก็ได้ผลเป็นอุบัติในภพ (ผลของเจตนาที่ทำให้ไปเกิด)

===
ภพ

มีเจตนาจ้องผลอันใดอันหนึ่งเพื่อตัวตนแล้วทำ เรียกว่า ภพ
ความรู้สึกอย่างนี้มันไม่ได้เกิดตลอด
นานๆ เกิดที

คบเพื่อนคบใคร
ก็หวังว่าคบๆ กันไว้
พอลำบากจะได้ช่วยเหลือกัน
จึงสร้างสังคม สร้างกลุ่ม สร้างครอบครัว

เกิดเพราะมีอุปาทาน
เกิดเมื่อมีอุปาทาน

ถ้าไม่ยึดไม่เห็นผิดว่าเป็นตัวตน
การกระทำอะไรๆ ก็เหมือนเดิม
แต่ไม่มีการจ้องเอาผลเพื่อตน

เมื่ออุปาทานไม่มี
การกระทำโดยจ้องจะเอาผลก็ไม่มี
อดีตเป็นอย่างนี้ อนาคตเป็นอย่างนี้ ปัจจุบันก็เป็นอย่างนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น