มีการพิจารณาอยู่ 5 อย่าง
พิจารณามรรค
พิจารณาผล
พิจารณานิพพาน
พิจารณากิเลสละแล้ว
พิจารณากิเลสเหลืออยู่
บุคคลธรรมดาทั่วไป บางคนท่านก็ว่ารู้ครบบ้างไม่ครบบ้าง รู้อันเดียวบ้าง สองอันบ้าง
บางคนรู้มรรค
บางคนรู้ผล
บางคนรู้นิพพาน
บางคนรู้กิเลสละแล้ว
บางคนรู้กิเลสเหลืออยู่
บางคน....รู้ไม่ทัน 5555
คนเห็นจิตเขายังตัดสินภูมิธรรมเขาไม่ได้เลย
มองจิตเขาเห็นเลยนะ
สาอะไรกับคนทั่วไป
คือมันไวมาก ตามจิตนิยามไม่ทัน
คือตามจิตนิยามมันก็รู้ได้ตามนั้น
แต่เวลาปัญญาเดินจริงอาจไม่ได้รู้ตามนั้นทั้งหมด
เหมือนอภิญญา ก็ใช่จะรู้ได้ทั้งหมดตามที่ท่านว่า
พระอรหันต์จึงยังต้องไปฟังธรรมพระพุทธเจ้า
เพราะบางทีไม่รู้เรื่อง
หรือรู้ก็ไม่รู้ว่าอะไร คือ อะไรก็ไม่รู้
จิตตนิยามมันไว ปัญญาอาจจะตามไม่ทัน
ท่านจึงไม่ได้ให้เอาอาการเหล่านี้เป็นเครื่องวัดความเป็นโสดาบัน
แต่ให้ใช้คุณธรรมภายใน "โสดาปัตติยังคะ"
ถ้าผ่านโสดาปัตติมรรคมา
คุณธรรมเหล่านี้จะครบถ้วน
- ความเลื่อมใสไม่หวั่นไหวในพระพุทธ
- ความเลื่อมใสไม่หวั่นไหวในพระธรรม
- ความเลื่อมใสไม่หวั่นไหวในพระสงฆ์
- มีอริยกันตศีล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น