อายตนะเป็นที่ตั้งของสังโยชน์
เมื่อทำงานอยู่ก็ต้องไปรับรู้เรื่องดีบ้างไม่ดีบ้าง
รับรู้เรื่องดี ก็อยากอยู่ต่อ
รับรู้เรื่องไม่ดี ก็อยากอยู่ต่อเหมือนกัน ... เพื่อแก้มัน 5555
คิดว่ามีเราแล้วจะแก้ได้
ความจริงไม่มีเราแก้ได้ง่ายกว่านะ หมดปัญหาไปตัวนึง 5555
คิดไปได้เรื่อยเปื่อย
ธรรมที่เป็นตัวช่วยว่า
ตาไปเห็นแล้วจะได้ไม่ผูกไว้
หูไปยินแล้วจะได้ไม่ผูกไว้ ฯ
ธรรมตัวนี้คือ โพชฌงค์
อันที่จริงหูกับเสียงนี่ไม่เกี่ยวข้องกัน
เสียงกับการรับรู้นี่ก็ไม่เกี่ยวข้องกัน
เป็นเพียงธรรมะอย่างนึงที่เกิด
เกิดแล้วก็ดับ...
สิ่งที่มองเห็นเอาจริงๆ ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเรานะ
ลูกก็ไม่เกี่ยวกับเรา
โดยธรรมดา ... มันไม่ได้เกี่ยวกัน
แค่สังโยชน์มันจับผูกเฉยๆ
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
สิ่งต่างๆ ในโลกก็อยู่ของมัน
ตาเราก็อยู่ของมัน
สิ่งภายในก็ไม่มีตัวตน
สิ่งภายนอกก็ไม่มีตัวตน
มากระทบกันแล้ว เป็นเหตุให้เกิดกิเลส
ถ้าไม่ต้องการให้อายตนะเป็นที่ตั้งแห่งสังโยชน์
ต้องมีโพชฌงค์ ๗ จะได้ไม่ผูกกับโลก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น