หน้าที่ของเราต่อฝ่ายสังขารคือขันติ
หมายถึงความคงที่ของจิต
มั่นคง เฉยอยู่ได้
ไม่วอกแวก หวั่นไหว หรือโน้มเอียงไปกับมัน
เป็นปัญญาวิปัสสนา
ฝ่ายสังขารนี่ ฝึกฝนจนมั่นคงต่อฝ่ายสังขาร
ยอมรับมันได้ ไม่ว่ามันจะเป็นยังไง
ผู้ที่มีความคงที่ของจิตที่สุดคือพระอรหันต์
ขันติมี 3 ลำดับ อ่อน กลาง แก่
อย่างอ่อน
ใจเริ่มมั่นคงเมื่อเห็นความจริงของสังขารทั้งหลาย
(ไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตน)
ญาณที่ 3 เป็นต้นไป
สัมมสณญาณ - เป็นปัญญารวบสังขารทั้งหลายมีลักษณะอย่างนี้
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
ยังมีเจือด้วยความคิด
ตอนฝึกใหม่ๆ มันก็จะคอยรวบให้มาดูอย่างนี้
ถ้าไม่รวบ ทำไปๆ ก็จะแตกระแหงไปเรื่อย
คำว่ารวบ หมายถึง ให้ใจโยนิโสฯ เข้าไป
ใส่ใจเข้าไปในมุมนี้
ถ้าไม่รวบก็จะติดอยู่นาน
อุทยัพยญาณ - เห็นเกิด เห็นดับของสังขารปัจจุบัน ไม่ได้รวบ เพราะมันไม่ได้เจือด้วยความคิด
อย่างกลาง
ภังคญาณ จนถึง สังขารุเปกขาญาณ
อย่างแก่
สัจจานุโลมฯ ก่อนเกิดอริยมรรค
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น