ฝึกปฏิบัติไป
เห็นความปรุงแต่งทั้งดีทั้งไม่ดีก็ชั่วคราว
ก็เลิกจะเอาดี เลิกผลักไสไม่ดี
จิตก็เข้าสู่ภาวะความเป็นกลางต่อความปรุงแต่ง
แล้วก็ไปเห็นสภาวะความไม่ปรุงแต่งเข้า
โลกุตตรจิต
เป็นจิตที่ปรุงแต่ง เป็นสังขาร
ไปรู้ความไม่ปรุงแต่ง
ไปรู้นิพพาน ซึ่งเป็นวิสังขาร
ทั้งนี้โลกุตตรจิต
เป็นสังขารประเภทที่ไม่ปรุงแต่งตามขันธ์
แต่เดิมสังขารเกิดขึ้นเราปรุงต่อ
มันเลยวนเวียน
ต่อมาสังขารเกิดขึ้นเราไม่ปรุงตาม
อาการไม่ปรุงตามนี้เป็นลักษณะแบบโลกุตตระ
จนเมื่อสมบูรณ์ก็เป็นโลกุตตรจิตเห็นนิพพาน
นิพพานนั้นไม่เกิดดับ
แต่โลกุตตรจิตเกิดดับ
มหากิริยาจิต หรือจิตหนึ่ง
เห็นทุกอย่างทั้งภายในภายนอกเป็นหนึ่ง
จิตนี้เกิดดับ
แต่สิ่งที่เห็น ไม่เกิดดับ
เป็นความว่าง เป็นสุญญตา ตามแต่จะพูด ตรงหมดแหละ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น