เอาสติไปกำหนดที่อารมณ์
อันนี้จะไม่ใช่สติปัฏฐาน
เราแค่เอาอารมณ์ของสติปัฏฐาน
มาเป็นอารมณ์ของสมถะเท่านั้นเอง
ที่ถูกคือ
สติปัฏฐานนั้นเป็นฐานที่ตั้งของการเกิดสติ
เราต้องหัดไปจนมีสติ
คือให้เกิดความมีสติขึ้นใน 4 ฐานนี้
เช่น กายเราแต่เดิมมีอยู่
มันหลงตลอด
เราก็ใช้มันเป็นฐาน
เช่น ตามันกระพริบอยู่
แต่เดิมมันหลงไป
เราก็ใช้การกระพริบตานี่เป็นฐานของการรู้สึก
ไม่ใช่เอาสติไปกำหนดที่ฐาน
ถ้าทำแบบนี้จะเป็นวิธีการของสมถะ
เหมือนกับเราไปจดจ่อข้างนอกนั่นแหละ
เช่น เราเอาอารมณ์กสิณมาอันนึง
วางไว้ แล้วเอาสติไปจดจ่อที่นั่น
แบบนี้เรียกว่าเอาสติไปจ่อที่อารมณ์
ทีนี้แทนที่จะไปจ่ออารมณ์ภายนอก
ก็เอากาย ใจมาเป็นอารมณ์แทน
คือ เอาสติไปกำหนดที่กายที่ใจ ที่ใดที่นึง
อันนี้ก็เป็นสมถะ
หลังๆ นี่มักฝึกจนกลายเป็น
เอาสติไปจมอยู่กับฐาน
ที่ถูกคือ เอาฐาน เป็นที่ตั้งให้กับสติ หรือความรู้สึกตัว
เดิมมันหลงมาก ก็เอา กาย เวทนา จิต ธรรมเนี่ย
เป็นฐานให้รู้สึกตัวเข้าไว้
สิ่งที่สำคัญคือ ต้องรู้ว่าตอนนี้ทำอะไร
จะกำหนดก็ไม่ผิด
ทำสมถะก็ไม่ได้เสียหาย
แต่ต้องรู้ว่านี่กำลังทำสมถะ
อย่าไปหลงว่ากำลังทำอย่างอื่นอยู่
สมถะมันคือการที่ไปใส่ใจ สนใจในตัวอารมณ์
จะข้างนอก ข้างใน
จะบัญญัติ จะปรมัตถ์ก็ได้หมด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น