สมมติพระอริยะเจ้ามีคุณธรรมอะไร
เราก็ทำตามแบบอย่างบ้าง
ผล ทำไม่ได้
ทำไม่ได้ก็จะโทมนัส
โทมนัสเกิดขึ้ืนแล้วดีก็มี
โทมนัสลักษณะนี้มันละปฏิฆะ
ปฏิฆานุสัยจะไม่นอนเนื่องในปฏิฆะนี้
ปกติโดยธรรมชาตินี้ ปฏิฆานุสัยมันจะนอนเนื่องในทุกขเวทนา
แต่ถ้าเราพยายามทำความดี
เรายังทำไม่ได้ แล้วรู้สึกเสียใจ
ปฏิฆานุสัยมันจะไม่นอนในความรู้สึกอันนี้
เทียบกับเวลาเสียใจเรื่องอื่น เช่น แฟนทิ้ง หมาตาย ฯลฯ
อย่างนี้ปฏิฆานุสัยมันไปนอน
แต่ถ้าเราเสียใจเพราะทำไม่ได้อย่างพระอริยะเจ้า
ปฏิฆานุสัยมันไม่นอน
ไหนๆ ก็ต้องเสียใจ
ไปเสียใจที่ตัวเองทำไม่ได้
ฉะนั้น ก็ให้ดีเยอะๆ ไว้ 5555
ทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะ
เป็นปุถุชนคนมีกิเลส
ยังไงก็ต้องเสียใจ
พอมารู้งี้แล้วเราก็ "เลือกเรื่องที่เสียใจให้เข้าท่าหน่อย"
ฉลาดเลือก
ทำไม่ได้ ร้องไห้เสียใจ
แต่ทำไปๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้นี่แหละ
กิเลสลดนะ ผ่านไปหลายเดือนหลายปีจะเห็นเลย
เพราะปฏิฆานุสัยมันไม่นอนไง ... ฉะนั้น เสียใจก็ทำไปนะ ยังทำไม่ได้ก็ทำต่อไป
ทุกขเวทนา
ก็มีที่ทั้งปฏิฆานุสัยนอน และไม่นอน
สุขเวทนา
ก็มีทั้งที่ราคานุสัยมันนอน และไม่นอน
อทุกขมสุขเวทนา
ก็มีทั้งที่อวิชชานุสัยนอน และไม่นอน
สมมติสบาย ดูทีวี
กามราคานุสัยมันเยอะขึ้น
ถ้าไม่ดูแล้วสบาย ไปนั่งสมาธิ
มีความสุขและปีติอันเกิดจากวิเวก กามราคานุสัยมันไม่นอน
สังเกตว่า ทั้งๆ ที่ทำทั้งสองอย่าง
ก็มีความสุขเหมือนกัน
แต่ทำอันนึงราคานุสัยมันนอน
ทำอันนึงราคานุสัยมันไม่นอน
อทุกขมสุขที่อวิชชานุสัยนอนก็มี
ที่ไม่นอนก็มี - ฌาน 4 อันนี้อวิชชานุสัยไม่นอน
ละอวิชชานุสัยได้อีกตะหาก
สุขที่ราคานุสัยนอนก็มี
ที่ไม่นอนก็มี - สุขและปีติอันเกิดจากวิเวก
ละราคานุสัยได้อีกตะหาก
(คือก็ให้เลือกสุขแหละ แต่เลือกสุขที่ละกามราคะ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น