วันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2560

สัมมาวาจา

มุสาวาท
นักปฏิบัตินี่
ส่วนมากก็พูดจริงแล้วล่ะ
แต่ดูตรง "ใส่ไข่"
จริงแหละ น้ำหนักมันยังเพี้ยน
หัดดูพวกนี้ เพราะจิตมันยังไม่เป็นกลางจริงๆ

ปิสุณาวาท
การพูดเรื่องคนนึง ให้คนนึงฟัง

คำพูดนี่ความจริงเป็นจริงน้อยมาก
เพราะความจริงคือ ตัวสภาวะนี่มันก็เกิดดับไปหลายรอบแล้ว
แต่ตัวคำพูดนี่ก็ปรุงขึ้นมา แล้วก็ไปยึดว่าจริงจัง

กระบวนการคำพูดไปกระแทกหูอีกคน
กว่าจะปรุงขึ้นมา
เหตุที่ปรุงขึ้นมาจะอิจฉา จะริษยา จะโกรธก็ดี
สิ่งที่ดันขึ้นมาให้พูดน่ะ
กว่าจะเป็นคำนี่ ตัวปรุงแต่งดับไปหมดแล้ว

สัญญาต่างๆ ดับไปหมดแล้ว
มาเป็นคอ เป็นฟัน เป็นลิ้นกระทบกัน แล้วก็ดับไปอีกเหมือนกัน

กว่าจะไปกระแทกหูอีกคน
กว่าจะมาใส่ความคิด ดับไปไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร

ความจริงแท้นี่มีแค่ปัจจุบัน
จริงแท้ดับไป

คำพูดนี่ผ่านความไม่จริงมาแบบมโหฬาร
แต่เราก็ยังยึดมั่นว่า มันจริงนะ
โกรธคำพูดอีก

สัมผัปปลาปะ
คำไม่จำเป็น

ดูจนหายอยาก
ถึงจะรู้ว่าควร/ไม่ควรถาม
ควรพูด/ไม่ควรพูด

เอาจริงๆ ดูไม่ถึงนาทีก็รู้แล้วควรไม่ควร
ไม่มาฝึกดูจะไม่รู้จัก "ความเกิน"

หัดดูตัณหาที่จะพาเราไปพูด เรียกว่า สัมมาวาจา

พวกขี้คุย
ธรรมวินัยนี่เป็นไปทางพูดน้อย
ยิ่งปฏิบัติยิ่งขี้โม้นี่
ผิด...

เรามักจะคุยเลยการงาน
คุยงานก็คุยไป
พอจบก็น่าจะจบ
แต่มันมักไม่จบ
เลยเถิดเพ้อเจ้อ 5555

ของมีประโยชน์
แต่พูดพร่ำเพรื่อ
ก็ไม่มีประโยชน์
อันนี้ก็เสื่อมเหมือนกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น