ให้ตามดูทุกข์
ไม่ใช่ทุกข์เพราะไปตามดู 5555
หน้าที่ของเราคือตามดูไปเฉยๆ
เริ่มเห็นว่านาม-รูปมันทำงานของมันเอง
อันนี้ก็ยังเรียกว่าอยู่ในขั้นตามรู้ เรียก อนุปัสสนา
อนุปัสสนานี่ต้องเห็นหางของอาการมันด้วย
ไม่ใช่ว่าชั่วโมงที่แล้วโกรธ เพิ่งนึกได้ชั่วโมงนี้
สภาวะดับไปแล้วนี้ อันนี้ไม่ใช่อนุปัสสนา
ทั้งนี้นึกได้ก็ดีกว่านึกไม่ได้นะ รู้ก็ดีแล้ว
เวลาปฏิบัติแรกๆ ที่สติสัมปชัญญะยังไม่แข็งแรงนี่
มันจะเหมือนกับเราดูด้วย แล้วก็มีกิเลสพร้อมกันไปด้วย
เหมือนมันปนๆ กันอยู่
เหมือนเห็นอยู่นะว่าโกรธแต่ก็ยังโกรธ
เห็นอยู่นะว่ายังโลภแต่ก็ยังโลภ
ตอนนี้แหละเรียก อนุปัสสนา
เมื่อฝึกแบบอนุปัสสนาไปเรื่อยๆ
จะมีสติสัมปชัญญะที่เกิดเอง
สติสัมปชัญญะที่เกิดเองนี้
จะมีกำลังของสัมมาสมาธิหนุนอยู่
ทำบ่อยๆ จะทำให้เกิดความตั้งมั่นของจิต
แต่เมื่อสติสัมปชัญญะแข็งแรงขึ้น (เกิดเอง)
จะเห็นว่ารู้ปุ๊บดับเลย
เมื่อใดก็ตามที่เห็นความขาดช่วง สันตติขาดให้เห็น ฆนบัญญัติหาย
พูดอีกแบบคือ เห็นการเกิดขึ้นและดับไปต่อหน้าต่อตา (เทียบภาษาแขก อุทยพฺพยญาณ)
นั่นจึงเป็นการเห็นแจ้ง ที่เรียกว่า "วิปัสสนา"
วิปัสสนานี่เป็นเรื่องจิตที่เห็น
ไม่ใช่เรื่องของเรา
วิปัสสนาจะไม่เกิด ถ้าไม่ตามดู
การปล่อยวาง
การตัดสินความรู้ต่างๆ เป็นหน้าที่ของจิต
หน้าที่ของเราคือทำเหตุ คือ ตามดูไปเรื่อยๆ อย่างเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น