ขันธ์ห้าเป็นสังขารธรรม
ก็ยังปรุงแต่งต่อไปของมันเหมือนเดิม
เพียงแต่ผู้ปฏิบัติ ไม่ปล่อยให้ตัณหาไปปรุงมันเพิ่มเติม
หน้าที่ของสังขารคือปรุงแต่ง
จิตก็นึกคิดของมันไปเรื่อย
หน้าที่เราคือ ดูให้เข้าใจ เท่านั้น
ฉะนั้นการปฏิบัติธรรม
ไม่ใช่ปฏิบัติเพื่อจะ "หยุดขันธ์"
ไม่ให้เห็น ไม่ให้ได้ยิน ไม่ใช่อย่างนั้น
หยุดขันธ์หยาบ
จะเอาขันธ์ละเอียด
อย่างนี้ไม่ใช่
ไม่ใช่หนีความปรุงแต่ง
ไปเอาความว่าง
จิตที่เห็นความจริงจนอุเบกขาต่อสังขาร
จะเลิกดิ้น เลิกปรุงไปตามตัณหา
บรรลุธรรม เป็นคนละเรื่องกะการ "ได้ดี"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น