เมื่อจิตเป็นหนึ่ง หรือสงบแล้ว
ท่านให้กำหนดรู้จิตนี้
รู้สภาพความสงบ กำหนดรู้ว่า "นี่คือความสงบ" "นี่คือไม่ซัดส่าย"
พอรู้ สติก็เป็นอันต้้งขึ้น
จิตเป็นหนึ่งมันจะเกิดปีติได้ง่าย
ทีนี้เมื่อปีติเกิดขึ้น
สติจึงจะแยกได้ คือเห็นว่ามันเกิดขึ้น (มันต่างจากเมื่อกี้)
ไม่งั้นจะโดนปีติครอบ มาตอนไหนก็ไม่รู้ ถ้าไม่ได้กำหนดความสงบไว้ก่อน
พอปีติครอบมากมันก็จะหาทางออก
เวลาจิตเบิกบานมากมันก็ไปดันกาย
น้ำหูน้ำตาไหล โยก ฯลฯ โดนปีติครอบยังไม่รู้ อันนี้เรียก "รู้หาย"
จริงๆ ปีติก็อยู่ตั้งแต่ต้นนั่นแหละ
ปีติมันเกิดตอนที่ใจสงบระงับนั่นแหละ มีโอกาสเกิดทุกตอนนั่นแหละ เยอะไปหมด
แต่ถ้าไม่ตั้งสติขึ้นมาว่านี่คือสงบ มันก็จะแยกปีติออกไม่ได้ มันไม่เห็นว่ามาตั้งแต่เมื่อไร
ก็พิจารณาต่อไม่ได้ว่า นี่เกิดขึ้น เกิดด้วยมีเหตุ ฯลฯ
โดนครอบเรียบร้อย
อานาปานสตินี่ "ห้ามรู้หาย ห้ามหายรู้"
ทำท่าจะหาย ถอยมาตั้งหลักลมหายใจหน่อยนึง แล้วรู้ต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น