ธรรมฝ่ายสมาธิ
ทำให้มีความพร้อมในการไปรู้ความเป็นไปต่างๆ
ผู้ฝึกธรรมฝ่ายสมาธิสำเร็จ
เขาเรียกว่าได้ อิทธิบาท
พร้อมจะไปรู้กฏเกณฑ์ทางธรรมชาติต่างๆ
สมาธิเป็นตัววัด
เป็นตัวกลางที่มีความสำคัญ
ว่าเราจะสามารถเข้าใจความลับของธรรมชาติรึป่าว
บางคนไม่รู้ ไม่เห็นความสำคัญ
ไม่ฝึกสมาธิ
ตัวเหตุที่ให้สำเร็จเขาเรียกอิทธิบาท
คือมีสมาธิ มีความตั้งมั่น
สมาธินี้ไม่ใช่มนุสธรรม
คนดีทั่วไปอย่างมาก็มีศีล
แต่เป็นอุตริมนุสธรรม
คือ เหนือกว่ามนุษย์ธรรมดา
ถ้าไม่ได้สมาธิ
อุตริมนุสธรรมต่างๆ ไม่สามารถสำเร็จไปได้
เช่น ฌาน อภิญญา ญาณต่างๆ อาสวักขยญาณ
ไม่สามารถเกิดขึ้นได้
ฝึกไปจึงจะรู้ว่า
จิตที่มีความพอใจ มีความเพียร
มีความใส่ใจ มีมุมมองที่ถูกต้อง
สมาธิที่มีลักษณะอย่างนี้
จึงจะทำการงานได้
จึงจะทำให้สำเร็จอุตริมนุสธรรม
ถ้าไม่ได้อย่างนี้
ก็วนๆ อยู่แถวมนุสธรรมนี่แหละ
ทางฝึกก็ตามสัมมัปธาน
จนรู้จักจิตที่มีสมาธิ
ฝึกสมาธิได้แล้วจะบรรลุเร็วหรือช้า
หรือพร้อมรึยัง
มาดูที่อินทรีย์
อินทรีย์
บอกความพร้อมจะบรรลุ
บรรลุได้เร็ว เขาเรียก อินทรีย์กล้า
ฝ่ายดีที่เริ่มเกิดขึ้น
อินทรีย์นี่จะเป็นตัววัดไปจนถึงอนาคามีโน่น
ละสังขารแล้วจะไปชั้นไหนยังอยู่ที่อินทรีย์เลย
พละนี่
นอกจากจะพร้อมแล้ว
ฝ่ายดีที่เกิดขึ้น ก็ดูว่าหนักแน่นรึป่าว
ยังมีความไม่หวั่นไหวไปในธรรมคู่ตรงข้ามด้วย
ถ้าใจยังหวั่นไหว
เรียกว่าไม่มีพละ
โพชฌงค์
ตัววัด คนมีคุณสมบัติเหล่านี้ และครบถ้วนสมบูรณ์
อริยมรรคพร้อมเกิดละ
ถ้ามาดูฝ่ายโพธิปักขิยธรรมนี่เป็นการฝึกอธิจิต
ผลการฝึกอธิจิต ก็คือ ได้สมาธินี่แหละ
พอได้รู้จักธรรมฝ่ายสมาธิแล้ว
จึงจะมีโอกาสสัมผัสธรรมฝ่ายเหนือโลก
ถ้ามีเฉพาะฝ่ายศีล ยังไม่พอ
เพราะมันยังยินดี ยินร้ายไปกับโลก
ยังไม่พ้นโลก
มันต้องฝึกฝ่ายสมาธิขึ้นมาจนไม่ยินดียินร้ายกับโลกเสียก่อน
ปัญญาจึงจะพร้อมเดิน
ธรรมฝ่ายเหนือโลกนั้น
เหนือดีและชั่ว
ไม่เอาทั้งดี และไม่ดี
แต่มัน "ต้องอาศัยฝ่ายดี" ในการไปสัมผัส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น