ตถาคตแสดงธรรมประกอบด้วยปาฏิหาริย์
ไม่ใช่แสดงธรรมที่ไม่ประกอบด้วยปาฏิหาริย์
ปาฏิหาริย์
สามารถครอบงำฝ่ายตรงข้าม
สามารถชนะฝ่ายตรงข้าม
แสดงเรื่องศีล
สามารถละทุจริต
ชนะเจตนาที่จะเบียดเบียน
จะเอาคืนบ้าง
แสดงเรื่องศีล
เจตนาพวกนี้ก็ไม่เกิด
แสดงเรื่องสมาธิ
สามารถละ นิวรณ์
แต่เดิมใจไม่ปลอดโปร่ง ฟุ้ง ไม่รู้คิดอะไรวันๆ
ไม่คิดก็ง่วง
เห็นของดีก็ชอบ ไม่ดีก็ชัง วนเวียนไป
แสดงเรื่องสมาธินี่
ถ้าฝึกฝนตามนี้ อาการพวกนี้หายเลย
เพราะอาการเป็นอาการจิตไม่เป็นสมาธิ
เหลือแต่จิตใจสบาย ปลอดโปร่ง โล่งเบา มีความสุข
นี่เรียกว่ามีปาฏิหาริย์
แสดงเรื่องปัญญา
สามารถละพวกกิเลสละเอียด สังโยชน์ อนุสัยได้
แสดงเรื่องให้มีสติสัมปชัญญะดูกาย เวทนา
ก็สามารถหลุดจากความหลงได้
ไม่ต้องไปทำลายฝ่ายตรงข้าม
แต่ฝึกอีกฝ่ายขึ้นมา พวกนั้นก็หายไป
ไม่ต้องไปทำลายกิเลส
แค่ฝึกให้มี ศีล สมาธิ ปัญญา
ธรรมมันมีปาฏิหาริย์ ^_^
ไม่ต้องไปพยายามละอะไร
ถ้าไม่มีปาฏิหารย์คื
ให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้
ทำไปก็ยังยากเหมือนเดิม
ละกิเลสไม่ได้
ไม่ใช่ฝึกมีศีล
ทำอย่างนี้ๆ
แต่ดันทุกข์เหมือนเดิม กิเลสอยู่เหมือนเดิม
แต่ฝึกตามท่านนี่
แรกๆ อาจจะยากหน่อย
แต่สบายขึ้นเรื่อยๆ
ธรรมแสดงปาฏิหาริย์
ลักษณะนี้ เรียกเป็น อนุสาสนีปาฏิหาริย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น